จากสภาพอากาศในกรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีลักษณะขมุกขมัว เกิดหมอกหนาปกคลุมในหลายพื้นที่ โดยกรมควบคุมมลพิษ ได้รายงานสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่า ปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 ยังคงเกินเกณฑ์มาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม.) ใน 5 สถานี ได้แก่ บริเวณเขตบางนา เขตวังทองหลาง ริมถนนอินทรพิทักษ์ ริมถนนพระราม 4 และริมถนนลาดพร้าว
และล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น. สถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตรวจวัดได้ระหว่าง 69-94 มคก./ลบ.ม. ปริมาณฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลงทุกพื้นที่ โดยพบเกินเกณฑ์มาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม.) ได้แก่ บริเวณเขตบางนา 69 มคก./ลบ.ม. , เขตวังทองหลาง 94 มคก./ลบ.ม. , ริมถนนพระรามสี่ 83 มคก./ลบ.ม. , ริมถนนอินทรพิทักษ์ 90 มคก./ลบ.ม. และริมถนนลาดพร้าว 86 มคก./ลบ.ม.
นางสุวรรณา เตียรถ์ รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยกับ 'วอยซ์ออนไลน์' ว่าสภาพอากาศเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเกิดจากสภาพอากาศเย็น ประกอบกับลมจากประเทศจีนและอ่าวไทย จนเกิดความชื้น ประกอบกับสถานการณ์ฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นจากแหล่งกำเนิดมลพิษต่างๆ ทำให้เกิดหมอกหนาปกคลุม
สำหรับแนวโน้มในวันพรุ่งนี้ (9 ก.พ.61) คาดว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้น ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส แต่ในช่วงวันที่ 12-13 ก.พ. สภาพอากาศอาจจะกลับมาเป็นเหมือนเช้าวันนี้อีก เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า ประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศหนาวเย็นและอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส
อย่างไรก็ตาม ทางกรมฯ ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีประชาชนได้รับผลกระทบร้ายแรงจากสภาพอากาศดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมาได้มีการให้ข้อมูลถึงสถานการณ์ฝุ่นละอองกับประชาชนมาโดยตลอด แต่ก็ยังคงเป็นห่วงกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ และผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้สูงอายุ และเด็ก ให้หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมภายนอกอาคาร หรือ หากมีความจำเป็นต้องออกมาภายนอกอาคาร ให้ใส่หน้ากากอนามัย