นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรคมือ เท้า ปากเริ่มพบมากขึ้นในช่วงฤดูฝนนี้ มีความเสี่ยงที่จะพบเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเด็กเล็ก (แรกเกิด- 4 ปี) และกลุ่มเด็กวัยเรียน (5-9 ปี) เนื่องจากโรงเรียนเป็นสถานที่ที่มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก ซึ่งง่ายต่อการแพร่กระจายเชื้อโรคผ่านสิ่งของที่ใช้
สถานการณ์โรคมือ เท้า ปากของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 4 มิ.ย. 2561 พบผู้ป่วยจำนวน 13,554 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต โดยผู้ป่วยเกือบทั้งหมด (ร้อยละ 85.8 ) เป็นกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่อยู่ในโรงเรียน หรือสถานเลี้ยงเด็ก ซึ่งหากไม่ได้รับการดูแลเป็นพิเศษจะก่อให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อได้อย่างรวดเร็ว จึงขอแนะนำ 4 วิธีในการป้องกันโรคมือ เท้า ปาก ดังนี้
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและโรงเรียนควรคัดกรองเด็กนักเรียนทุกเช้าก่อนเข้าห้องเรียน เพื่อตรวจดูนักเรียนที่มีอาการแสดงของโรค คือมีไข้ ผื่น ตุ่มน้ำใส หรือเม็ดแดงๆ ในปาก ฝ่ามือ ฝ่าเท้า หรือก้น หากพบเด็กป่วยให้แยกออกมา แจ้งผู้ปกครองให้มารับกลับและพักรักษาจนกว่าจะหายเป็นปกติ จัดจุดล้างมือหรือเจลแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือ สำหรับผู้ปกครอง ควรหมั่นสังเกตอาการของบุตรหลาน หากพบมีอาการควรพิจารณาให้บุตรหลานหยุดเรียนและพักรักษาจนกว่าจะหาย ทั้งนี้ โรคนี้ไม่มียารักษา ไม่มีวัคซีน จะรักษาตามอาการ ถ้าหากเด็กมีอาการแทรกซ้อน เช่น ไข้สูง ซึม อาเจียน หอบ ต้องรีบนำเด็กไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลทันที เพราะอาจติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์รุนแรง เสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้มากกว่าสายพันธุ์ปกติ
ภาพประกอบ ไม่เกี่ยวกับข่าว