สำนักข่าวซินหัวของจีนเปิดเผยว่า จีนกำลังเตรียมก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจทางอวกาศของโลกภายในปี 2045 ด้วยการพัฒนากระสวยอวกาศพลังงานนิวเคลียร์ให้แล้วเสร็จภายในปี 2040 ซึ่งจะเป็นการปฏิวัติวงการวิทยาศาสตร์อวกาศของโลก โดยสำนักข่าวซินหัวระบุว่า การพัฒนากระสวยอวกาศพลังงานนิวเคลียร์ จะเป็นจุดเริ่มต้นของการสำรวจอวกาศครั้งใหญ่ เปิดทางไปสู่การทำเหมืองแร่บนอุกกาบาต และการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในอวกาศ

นอกจากนี้ สำนักข่าวซินหัวยังเปิดเผยโรดแมปสู่การเป็นมหาอำนาจทางอวกาศของจีนว่า ภายในปี 2020 จีนจะส่งจรวดลองมาร์ช-8 ขึ้นสู่อวกาศ ซึ่งเทคโนโลยีของจรวดลองมาร์ชรุ่นล่าสุดนี้ จะช่วยลดต้นทุนในการส่งดาวเทียมพาณิชย์ขึ้นสู่วงโคจรของโลกระดับกลางและระดับล่าง ซึ่งจะทำให้จีนสามารถส่งดาวเทียมจำนวนมากขึ้นสู่อวกาศได้ จากนั้นในปี 2025 จรวดขนส่งทางอวกาศที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่จะถูกนำมาใช้งานจริง และในปี 2030 จีนจะส่งจรวดขนส่งขนาดหนักขึ้นไปสนับสนุนภารกิจของนักบินอวกาศในการขนย้ายตัวอย่างจากพื้นผิวดวงจันทร์และดาวอังคารมายังสถานีอวกาศและโลก

อย่างไรก็ตาม การสร้างกระสวยอวกาศพลังงานนิวเคลียร์ไม่ใช่แนวคิดใหม่แต่อย่างใด เพระเมื่อปี 1955-1972 สหรัฐฯ เคยทำการทดสอบภาคพื้นดินเพื่อพัฒนาระบบดังกล่าวขึ้น แต่การทดสอบได้ถูกยุติลง เมื่อแผนนำนักบินอวกาศไปดาวอังคารได้ถูกเลื่อนออกไป และนับจากนั้นเป็นต้นมา แผนสร้างกระสวยอวกาศพลังงานนิวเคลียร์ได้ถูกนำมาทบทวนหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุด คือ เมื่อช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ที่นาซาได้ออกมาประกาศโครงการเครื่องยนต์จรวดพลังงานนิวเคลียร์