เอาล่ะ สนใจแล้วใช่ไหม งั้นก็หาวันว่าง จัดการเรื่องที่พัก แต่ถ้าอยากจะประหยัด ชอยส์แรกที่จะช่วยให้เราลดงบประมาณได้มากโขก็คือเลือกบินกับสายการบินโลว์คอสต์ และถ้าจะให้แนะนำเอาที่บินจากไทยไปลงสนามบินตั้งต้นของการเดินทางอย่างชัยปุระก็ต้อง 'แอร์เอเชีย' เขาล่ะ เพราะเขามีลงเส้นทางที่ว่า โดยที่คุณไม่ต้องว่ารถไปต่อให้เสียเวลาเที่ยว
ส่วนเว็บไซต์จองตั๋วเครื่องบินน่ะเหรอ นี่เลย Traveloka นอกจากราคาจะดีกว่าเจ้าอื่น เขายังมีฟีเจอร์ใหม่ 'Price Alert' ช่วยให้นักเดินทางอย่างเราได้จองตั๋วที่ใช่ ในราคาที่ตรงใจมากขึ้น โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาเทียบราคาตั๋วอีกต่อไป
พระราชวังสายลม (Hawa Mahal)
เหมือนเป็นธรรมเนียมว่าใครที่มาจัยปร์ู (ชัยปุระ) ยังไงๆ ก็ต้องแวะเช็กอินถ่ายรูปชิคๆ ที่พระราชวังสายลม (Hawa Mahai) อาคารสถาปัตยกรรม 5 ชั้นที่ทั้งแผงละลานตาไปด้วยหน้าต่างฉลุช่องลมสีชมพูอมส้มมากถึง 152 ช่อง ถอดแบบสไตล์เปอร์เซียและโมกุลมาอย่างละเอี��ดยิบกันก่อน
ส่วนใครที่อยากจะชื่นชมความงดงามของเมืองชัยปุระแบบมุมสูง เราขอแนะนำให้ลองขึ้นไปยังชั้นบนสุดของพระราชวังดูค่ะ แม้ว่าระหว่างทางจะค่อนข้างชันและทางเดินที่สลับซับซ้อนก็ตามที
อ้อ! ภายในพระราชวังยังมีพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กให้ได้เข้าชมด้วยนะ ลองดูค่ะเผื่อจะถูกใจกัน
● ค่าเข้าชม 50 รูปี
● ให้บริการตั้งแต่ 9:00-16:30 น.
● ปักหมุด Google Maps
ป้อมแอมเบอร์ (Amer Fort)
ป้อมแอมเบอร์เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของชัยปุระที่ใครก็ตามควรต้องมาได้โดนกันสักครั้งค่ะ
เหตุผลน่ะเหรอ? เพราะด้วยความที่โดดเด่นแม้กระทั่งที่ตั้ง (ตัวป้อมตั้งอยู่บนผาหินเหนือทะเลสาบเมาตา) แถมยังขึ้นชื่อเรื่องสถาปัตยกรรมที่สวยสดงดงาม ลักษณะเป็นป้อมปราการหินทรายแดงที่ผสมทั้งศิลปะในแบบฮินดูเข้ากับศิลปะแบบราชปุตได้อย่างกลมกลืน ทำให้ป้อมแอมเบอร์แห่งนี้เป็นเดสติเนชั่นที่นักท่องเที่ยวต่างก็ลิสต์ไว้ในแพลนเที่ยว ที่สำคัญเป็นโลเคชั่นถ่ายรูปที่เรียกยอดไลก์ได้สูงมาก เชื่อเรา
● ค่าเข้าชมส่วนพระราชวัง 200 รูปี
● ให้บริการตั้งแต่ 8:00-18:00 น.
● ปักหมุด Google Maps
บ่อน้ำขั้นบันไดโบราณแชนด์ เบารี (Chand Baori)
ถ้าต้องให้คะแนนเรื่องสถาปัตยกรรมของ 'แชนด์ เบารี' บ่อน้ำโบราณของรัฐราชสถานที่เขาว่าลึกที่สุด ขอบอกเอาไว้ตรงนี้เลยว่าถ้ามี 100 คะแนนเราก็พร้อมที่จะเทแบบหมดหน้าตักค่ะ เพราะนอกจากความยิ่งใหญ่ของสถานที่แห่งนี้จะทำให้เราต้องทึ่งแล้ว บ่อน้ำดังกล่าวถือว่าเป็นตัวอย่างที่แสดงให้คนยุคนี้ได้เห็นถึงการวางแผนและการจัดการที่ดีของคนในยุคโบราณว่าเขาชาญฉลาดแค่ไหนอีกด้วย
สำหรับสายแชะ บ่อน้ำที่ลึกมากถึง 100 ฟุต สูง 13 ชั้น ทั้งมีจำนวนขั้นบันไดกว่า 3,500 ขั้นแห่งนี้ ถ้าให้มาร์กจุดกันเอง ดูท่าว่า 3 ชั่วโมงก็คงไม่เสร็จ ความที่เราดูเรฟมาแล้วเลยอยากจะแนะนำจุดเจ๋งๆ ว่าตรงขั้นบันไดเป็นแผงเยอะๆ นี่แหละค่ะเริ่ดที่สุดแล้ว ส่วนภาพที่ได้ออกมาดีต่อใจแน่นอน รับประกัน
● ค่าเข้าชม 100 รูปี
● ให้บริการตั้งแต่ 8:00-18:00 น.
● ปักหมุด Google Maps
จ๊อดปูร์ (Jodhpur)
ถ้าอยากจะถ่ายรูปให้ชิคเป๊ะเหมือนในอินสตาแกรม ก็ต้องมาหมู่บ้านแถวๆ หอนาฬิกาเลยจ้าถึงจะได้ตามเรฟเฟอเรนซ์ เนื่องจากปัจจุบันบ้านเรือนบางส่วนในจ๊อดปูร์ไม่ได้ทาบ้านด้วยสีฟ้าแล้ว ที่ทาด้วยสีฟ้าทั้งหมดแม้กระทั่งตามตรอกซอกซอยนั้นก็มีสัดส่วนที่น้อยกว่าเดิมมาก ซึ่งถ้าหากคุณไปผิดที่รูปที่ได้ก็อาจจะไม่สวยเท่าที่ใจต้องการก็ได้นะ ดังนั้นโน้ตเอาไว้เลยค่ะว่าที่ไหนยังฟ้าอยู่บ้าง เดี๋ยวจะหาว่าเราไม่เตือนนะ
● ไม่เสียค่าเข้าชม
● ปักหมุด Google Maps
ทัชมาฮาล (Taj Mahal)
อนุสรณ์สถานแห่งความรักที่สร้างขึ้นด้วยความอาลัยกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอีกทั้งได้รับคำรับรองจากสถาปนิกทั่วโลกว่า 'ทัชมาฮาล' คือสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นอย่างถูกสัดส่วน ทั้งวิจิตรงดงามเป็นที่สุด
เอาล่ะ… ในเมื่อสถานที่งดงาม แถมยังพรั่งพร้อมไปด้วยสตอรี่ ภาพที่ออกมามันก็ต้องดีสิถูกไหม แต่อย่าได้ประมาทไปค่ะ เพราะขึ้นชื่อว่าสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตผู้คนจึงมากล้นเป็นธรรมดา ดังนั้นหากต้องการเลี่ยงฝูงชนที่สามารถเดินเข้าเฟรมของคุณได้ทุกเมื่อ อย่างแรกคือจงไปทัชมาฮาลแต่เช้าค่ะ ไปก่อนประตูเปิดได้เลยยิ่งดี นอกจากจะไม่วุ่นวายแล้วเรายังเห็นทัชมาฮาลได้อย่างเต็มตามากขึ้นอีกด้วย
● ค่าเข้าชม 1,000 รูปี
● ให้บริการตั้งแต่ 8:00-17:00 น.
● ปักหมุด Google Maps
5 สถานที่ในอินเดียตามเมืองต่างๆ ที่เราได้แนะนำให้ไปเที่ยวถ่ายรูปครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณได้รูปไปโพสต์อวดเพื่อนฝูงเพิ่มยอดฟอลโลว์เวอร์แล้ว (อ่ะต่ำๆ ก็กินระยะเวลาไปหลายเดือน) แต่เรายังเชื่อเสมอว่าการเดินทางแต่ละครั้ง บ้านเมืองที่เราได้ไปเยือน สถานที่ที่เราจากมา ต่างก็มีเรื่องราวที่น่าเล่าต่อ เหมือนกับอดีตประเทศนอกสายตาของคนไทยอย่างอินเดียที่ก็มีเรื่องสนุกๆ ให้เราได้เก็บเอาไว้เป็นความทรงจำเช่นเดียวกัน