ไม่พบผลการค้นหา
นายกฯ ลงตรวจราชการ จ.ระนอง ก่อนประชุม ครม.สัญจร เขินประชาชนบอกรัก - ขอหอมแก้ม จวกรัฐบาลก่อนหน้าไม่เคยพัฒนา จ.ระนอง ทั้งที่ทรัพยากรมาก ปัด ครม.สัญจร ชุมพร - ระนอง มาหาเสียง แต่มาวางรากฐานยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี ลงตรวจราชการ จ.ระนอง และ จ.ชุมพร ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสุานที่ ที่ จ.ชุมพรในวันที่ 21 ส.ค.นี้ โดยนายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ บ่อน้ำพุร้อนรักษะวาริน สวนสาธารณะรักษะวาริน ต.เขานิวศน์ อ.เมือง จ.ระนอง โดยมีประชาชนมาให้กำลังใจมอบดอกไม้ ขณะที่ประชาชนแช่น้ำพุร้อนได้ร้องเพลงบอกรักนายกรัฐมนตรี และขอหอมแก้มนายกรัฐมนตรี แต่นายกรัฐมนตรี ได้พูดติดตลกว่า ตนเองไม่ใช่ดอกไม้ริมทาง 

นายกรัฐมนตรี ยังได้เยี่ยมชมศูนย์บำบัดโยคะร้อน พร้อมร่วมเล่นโยคะกับประชาชนอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับ ได้มีเด็กนักเรียนร้องเพลง "ลุงตู่น่ารัก เห็นแล้วคึกคัก เรารักลุงตู่" จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้รับมอบผ้าปาเต๊ะปักลายประจำถิ่น พร้อมดื่มน้ำใบเหลียงปั่นผสมน้ำส้มจี๊ด ซึ่งเป็นพืชสมุนไพรของภาคใต้ ตลอดการพบปะกับประชาชน นายกรัฐมนตรี ได้มีสีหน้าที่ยิ้มแย้มและอารมณ์ดี 

ขณะที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอธิบดีกรมชลประทาน ได้ร่วมแช่น้ำพุร้อนกับประชาชนในครั้งนี้ด้วย 

ทั้งนี้ นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ควรมีการบริหารจัดการเพิ่มเติมในเรื่องการประชาสัมพันธ์ และการบริหารจัดการน้ำ อาทิ เปิดให้เอกชนเข้ามาบริหารงานร่วมกับท่องุ่นในการสร้างท่อระบายน้ำ เพื่อผันน้ำนำกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งถือเป็นการรักษาระบบนิเวศน์ และผันดันให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญของจังหวัดระนอง เป็นการดึงดูดนักท่องให้มาท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น ก็จะสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชน เทียบเท่ากับบ่อน้ำพุร้อน หรือออนเซน ของประเทศญี่ปุ่น 

ประยุทธ์ ระนอง 33416.jpg

ซัดรัฐบาลก่อน ไม่พัฒนา จ.ระนอง

จากนั้น นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมศูนย์ฟื้นฟูสภาพด้วยการแพทย์ทางเลือกที่โรงพยาบาลระนอง และเดินทางไปยังท่าเรือระนอง ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง พร้อมฟังบรรรยายสรุปทิศทางการพัฒนาท่าเรือระนองเป็นศูนย์กลางการค้าและโลจิสติกส์ชายแดนฝั่งอันดามันเพื่อรองรับแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย ได้แก่ อินโดนีเซีย - มาเลเซีย - ไทย

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวในงานดังกล่าวว่า ไม่เข้าใจว่าทำไมที่นี่มีทรัพยากรมากมายแต่ไม่มีการพัฒนา รัฐบาลก่อนเคยทำเหมือนรัฐบาลนี้หรือไม่ ถ้าตอนนั้นมีความชัดเจน ตนคงไม่ต้องมายืนตรงนี้ ส่วนวันพรุ่งนี้ (21 ส.ค.) จะมีการประชุม กรอ. และ ครม.สัญจร ส่วน จ.ระนองจะได้อะไรก็ขอให้รอดู แต่จะให้ในสิ่งที่ควรให้

ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีทักทายข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และประชาชนที่มาร่วมงาน ได้เห็นผู้ร่วมงานคนหนึ่งชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทันพิสิทธิ์ เจ้าหน้าที่จากการท่าเรือแห่งประเทศไทย ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ พูดว่า "เธอเรียนจบแล้วไม่ใช่หรือ ยิ่งลักษณ์" พร้อมระบุว่า "ชื่อดีโว้ย ชื่อเพราะดี เพราะชื่อนี้เป็นนายกฯ ด้วยไง ยิ่งลักษณ์ ไอ้เราก็ตาไวซะด้วย แต่ไม่ได้ว่าอะไรใคร ทำให้ถูกก็แล้วกัน"

ปัดหาเสียงมาวางรากฐานให้รัฐบาลต่อไปสานต่อยุทธศาสตร์ชาติ

จากนั้นนายกรัฐมนตรี เดินทางมายังโครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามพระราชดำริ ต.บางลึก อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร โดยเป็นประธานสักขีพยานในพิธีมอบ หนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในพื้นที่เป้าหมายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ในภาคใต้ 12 พื้นที่ 4 จังหวัด รวมกว่า 2,903 ไร่ จำนวน 564 คน 654 แปลง และพิธีมอบหนังสือแสดงโครงการป่าชุมชน ให้ชุมชนในพื้นที่ภาคใต้ จำนวน 11 พื้นที่ 11 จังหวัด รวม 9,546 ไร่ 

โดย พล.อ.ประยุทธ์ ระบุกับประชาชน ว่า ก่อนมาประชุม ครม.สัญจร ทุกครั้งจะให้รองนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีลงพื้นที่ไปติดตามนโยบายต่างๆ และไม่ใช่มาเพื่อประชุมและให้งบประมาณแล้วกลับ มาในวันนี้เพื่อมาติดตามงานที่สั่งการและแก้ปัญหาอุปสรรคต่างๆ ที่รัฐบาลได้ทำตลอด 4 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งมารับฟังความเห็นของประชาชนในพื้นที่ ว่ายังมีปัญหาและความต้องการอะไรเพิ่มเติม พร้อมย้ำไม่ใช่มาหาเสียง แต่รัฐบาลนี้ต้องวางรากฐานให้รัฐบาลชุดต่อไปเข้ามาสานต่อ ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี 

นายกรัฐมนตรี ยังระบุด้วยว่า ตนไม่เคยปฏิเสธที่มาของตัวเองในการเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และไม่เคยกลัวใคร เพราะมาทำเพื่อประเทศ ทำเพื่อคนไทย แม้จะเหนื่อยยาก ลำบากก็ตาม

สำหรับภารกิจนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (21 ส.ค.) เวลา 08.30 น. จะเป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย (ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง สุราษฎร์ธานี และสงขลา) และกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล) จากนั้นเวลา 10.30 น. นายกรัฐมนตรีเป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ครั้งที่ 6/2561 ที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) วิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ต.ชุมโค อ.ปะทิว จ.ชุมพร