นายเกร็ก แอบบ็อต ผู้ว่าการรัฐเท็กซัสของสหรัฐฯ เปิดเผยว่าผู้ก่อเหตุกราดยิงที่โรงเรียนซานตาเฟ เมื่อวานนี้ (18 พ.ค.) คือ นายดิมิทรีอัส พากอร์ตซิส วัย 17 ปี ซึ่งนำปืนของพ่อที่ซื้อมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มาใช้ในการก่อเหตุ ทั้งยังมีวัตถุระเบิดหลงเหลืออยู่ในที่เกิดเหตุด้วย แต่เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุเพื่อสอบปากคำต่อไป
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างอิงคำให้การของเด็กนักเรียนที่อยู่ในเหตุการณ์ บอกว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนเงียบๆ และเป็นหนึ่งในทีมฟุตบอลของโรงเรียน และในวันเกิดเหตุ เขาได้สวมชุดคลุมกันฝนมาที่โรงเรียนทั้งที่เป็นวันอากาศร้อนเพื่อจะซ่อนปืนไว้ข้างใน ก่อนจะเปิดฉากยิงเพื่อนร่วมชั้นเรียนวิชาศิลปะ ช่วงเช้าวันศุกร์ 18 พ.ค. เวลา 08.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น
ส่วนความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีดังกล่าว เว็บไซต์ยูเอสเอทูเดย์รายงานว่าผู้ก่อเหตุให้ปากคำกับตำรวจว่าตั้งใจยิงตัวตายหลังก่อเหตุ แต่ทำไม่สำเร็จ ส่วนผู้เสียชีวิต 10 ราย เป็นเด็กนักเรียน 9 ราย และผู้ใหญ่ 1 ราย ซึ่งผู้ก่อเหตุรับสารภาพว่าผู้ตายเป็นคนที่เขา 'ไม่ชอบหน้า'
ขณะที่กลุ่มนักเรียนและผู้ปกครองโรงเรียนซานตาเฟหลายร้อยคนรวมตัวกันจุดเทียนและวางดอกไม้ไว้อาลัยแก่ผู้ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและนักเรียนส่วนใหญ่ร้องไห้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกราดยิงในโรงเรียนครั้งที่ 22 ในรอบ 5 เดือนของสหรัฐฯ และเป็นการก่อเหตุที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดเหตุกราดยิงที่โรงเรียนมัธยมปลายมาร์จอรี สโตนแมน ดักลาส ในเมืองพาร์คแลนด์ รัฐฟลอริดา เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา
หลังเกิดเหตุรอบใหม่ที่ซานตาเฟ ผู้ปกครองของนักเรียนที่เสียชีวิตในเหตุการณ์กราดยิงที่เมืองพาร์คแลนด์ก็ได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลควบคุมการซื้อขายอาวุธปืนอย่างเข้มงวดขึ้น รวมถึงพิจารณาทบทวนกฎหมายที่อนุญาตให้มีการพกปืนอย่างเสรีในบางรัฐ
นอกจากนี้ยังมีผู้ปลอมแปลงเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และไอจี โดยใช้ชื่อของมือปืนผู้ก่อเหตุที่ซานตาเฟ โพสต์ข้อมูลปลอมที่บ่งชี้ว่าผู้ก่อเหตุเป็นฝ่ายสนับสนุนนางฮิลลารี คลินตัน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สังกัดพรรคฝ่ายค้านเดโมแครต รวมถึงแอบอ้างว่ามือปืนสวมเสื้อพิมพ์ข้อความว่า Born to Kill (เกิดมาเพื่อฆ่า) ขณะลงมือก่อเหตุ ซึ่งเว็บไซต์ตรวจสอบข้อเท็จจริง Polotifact ระบุว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง