ต่างประเทศ
เลบานอนสั่งกักบริเวณเจ้าหน้าที่ท่าเรือเบรุตระหว่างสอบสวนเหตุระเบิด
ฮัสซัน ดิอาบ นายกรัฐมนตรีเลบานอนประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศ 3 วัน นับตั้งแต่วันนี้ (6 ส.ค. 2563) ขณะที่การสอบสวนเบื้องต้นระบุว่าความประมาทเป็นสาเหตุของเหตุระเบิดที่ท่าเรือเบรุต ซึ่งส่งผลให้มีผู้สูญหายหลายสิบคนและบาดเจ็บกว่า 5,000 คน ขณะเดียวกัน ก็ยังทำให้ประชาชนกว่า 2 แสนคน ต้องไร้ที่อยู่อาศัยเนื่องจากแรงสั่นสะเทือนจากระเบิดได้สร้างความเสียหายให้กับอาคารบ้านเรือน
คาดการณ์ว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตจากระเบิดครั้งนี้อาจเพิ่มขึ้น โดยทางการเลบานอนชี้ว่าสาเหตุของระเบิดมาจากสารแอมโมเนียมไนเตรท 2,750 ตัน ที่ถูกเก็บไว้ในโกดังที่ท่าเรือดังกล่าวเป็นเวลานานในสภาพที่ไม่ปลอดภัย รายงานระบุว่า สารเคมีเหล่านี้ถูกเก็บไว้ในโกดังดังกล่าวเป็นเวลา 6 ปี หลังเอาขึ้นมาจากเรือลำหนึ่งที่ถูกยึดเมื่อปี 2556
หัวหน้าหน่วยงานท่าเรือเบรุตและหัวหน้าหน่วยงานศุลกากรเผยกับสื่อท้องถิ่นว่า เคยยื่นหนังสือไปยังศาลหลายครั้งเพื่อขอให้ส่งออกหรือขายสารเคมีเหล่านี้ออกไปเพื่อความปลอดภัยของท่าเรือ โดยผู้จัดการทั่วไปของท่าเรือเบรุตบอกว่า เมื่อตอนที่ศาลสั่งให้เก็บสารแอมโมเนียมไนเตรทไว้ที่โกดังก็ตระหนักดีถึงอันตราย แต่ไม่คิดว่าจะอยู่ในระดับนี้
ล่าสุด คณะรัฐมนตรีเลบานอนมีคำสั่งกักบริเวณเจ้าหน้าที่ท่าเรือที่เกี่ยวข้องกับการเก็บหรือตรวจตราดูแลสารแอมโมเนียมไนเตรทเหล่านี้ในบ้านพักระหว่างการสอบสวน รวมถึงประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อให้อำนาจเต็มกับกองทัพในการดูแลสถานการณ์ในกรุงเบรุต อย่างไรก็ตาม ทางการยังไม่ยืนยันถึงต้นตอการเกิดประกายไฟที่ส่งผลให้เกิดระเบิดตามมา แม้ว่าแหล่งข่าวด้านความมั่นคงและสื่อท้องถิ่นจะระบุว่า จุดเริ่มต้นมาจากงานเชื่อมในโกดัง
เหตุระเบิดครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาอ่อนไหวของเลบานอน โดยการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้โรงพยาบาลต่างๆ ต้องดูแลผู้ป่วยจำนวนมากอยู่แล้วยังต้องดูแลผู้บาดเจ็บอีกนับพันคน ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจของเลบานอนก็อยู่ในภาวะย่ำแย่ รวมถึงยังมีความตึงเครียดจากการประท้วงต้านรัฐบาล นอกจากนี้ เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นยังทำให้เกิดความกังวลเรื่องความมั่นคงทางอาหาร เนื่องจากเขตท่าเรือดังกล่าวที่เสียหายเป็นเส้นทางหลักในการนำเข้าอาหารที่จำเป็นสำหรับเลี้ยงดูประชากรกว่า 6 ล้านคนในประเทศ ขณะที่โกดังเก็บธัญพืชหลักของประเทศที่ท่าเรือดังกล่าวก็ถูกทำลายไปในในเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น
ด้านมิเชล อูน ประธานาธิบดีของเลบานอนประกาศว่า รัฐบาลจะเปิดกองทุนฉุกเฉินมูลค่า 66 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2,112 ล้านบาท) แต่คาดว่าเหตุระเบิดน่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นระยะยาว
