ไม่พบผลการค้นหา
'โฆษกผู้นำฝ่ายค้าน' ค้านศาล รธน. จ่อเชิญ 'มีชัย-ปกรณ์' ให้การปมนายกฯ 8 ปี ชี้ควรมีนักวิชาการ-ประชาชนที่เป็นกลาง กระตุก 'ประวิตร' ใช้อำนาจรักษาการเท่าที่มี อย่าเชื่อเนติบริกรถึงขั้นยุบสภา

วันที่ 29 ส.ค. 2565 ที่อาคารรัฐสภา อดิศร เพียงเกษ ในฐานะโฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เผยว่า ผู้นำฝ่ายค้าน ได้มีการประชุมกับพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรคในสภาผู้แทนราษฎร หลังได้ทราบข่าวว่าศาลรัฐธรรมนูญจะเชิญ มีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ปี 2560 และ ปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขานุการ กรธ.ปี 2560 ไปให้การต่อศาลรัฐธรรมนูญเป็นลายลักษณ์อักษร ในกรณีพิจารณาวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ทางผู้นำฝ่ายค้านฯ และพรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นว่า ควรจะเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญ ท่านอื่นๆ มากกว่า 2 คนที่เอ่ยนามไป โดยอาจเป็นอาจารย์จากคณะนิติศาสตร์ หรือภาคประชาชนผู้มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย และมีความเป็นกลาง ให้ศาลรัฐธรรมนูญได้สอบถาม หรือพินิจวิเคราะห์ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย จะเป็นประโยชน์ต่อกระบวนการยุติธรรมมากกว่า เพื่อจะได้ใช้ความเห็นที่เป็นกลางในการตัดสินคดีที่เป็นประวัติศาสตร์นี้ จะเป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจต่อสาธารณะได้มากขึ้น และไม่เอนเอียงไปทางความเห็นข้างหนึ่งข้างใดมากเกินไป

ซึ่งผู้นำฝ่ายค้านฯ และพรรคร่วมหนังสือจะทำหนังสือร้องไปถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเสนอต่อรัฐธรรมนูญ พร้อมแนบชื่อบุคคลที่เห็นว่าเหมาะสมต่อการให้การไปด้วย ซึ่งจะสรรหาจากกลุ่มของอาจารย์นิติศาสตร์ พลเรือน รวมไปถึงสื่อมวลชนที่มีความเป็นกลาง ซึ่งขณะนี้ทางฝ่ายกฎหมายกำลังดำเนินการร่างคำร้อง เพื่อนำส่งประธานสภาฯ โดยด่วนที่สุด

อดิศร ยังเผยถึงท่าทีของผู้นำฝ่ายค้านฯ ต่อการใช้อำนาจรักษาการนายกรัฐมนตรี ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี โดยเห็นว่าต้องใช้อำนาจอย่างจำกัด และระมัดระวังอย่างยิ่ง ต้องไม่ใช้อำนาตตามที่เนติบริกรบางคนได้อธิบายกว้างไปถึงการยุบสภา จึงเรียกร้องให้ พล.อ.ประวิตร ใช้อำนาจเท่าที่มี โดยเฉพาะเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย สำนักงานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.)