นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พลเอกสมเจตน์ บุญถนอม ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. เป็นห่วงหากไม่มีการใช้ไพรมารีโหวตในการเลือกตั้ง อาจจะไม่ปฏิรูปการเมืองได้ ว่า ตนก็รับทราบ เนื่องจากพลเอกสมเจตน์ได้ส่งเอกสารการปฏิรูป 20 หน้ามายังรัฐบาลแล้ว ไม่มีความจำเป็นที่รัฐบาลจะต่อปากต่อคำว่าในเรื่องดังกล่าว
ซึ่งที่ผ่านมาการปฏิรูปการเมืองนั้นคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นคนคิดเอง เนื่องจากกฏหมายตามมาตรา 45 ระบุให้สมาชิกพรรคมีส่วนร่วม แต่จะเป็นไปได้หรือไม่ที่ครั้งแรกจะใช้วิธีอื่นแทนการทำไพรมารีโหวต จากนั้นค่อยใช้วิธีไพรมารีโหวตในการเลือกตั้งครั้งถัดไป ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนคสช. ขอพิจารณาในรายละเอียดก่อน หากใช้วิธีการตามที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. กำหนดก็ถือว่าเป็นการปฏิรูปการเมืองแล้ว
ส่วนในช่วง 30 วันสุดท้ายจะสามารถมีการจัดประชุมเพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคทำได้ทันที เมื่อมีการคลายล็อกหรือไม่นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า สามารถทำได้ เพราะบางพรรคจำเป็นต้องเลือกหัวหน้าพรรค ตั้งกรรมการบริหารพรรคใหม่ แก้ไขข้อบังคับ และตั้งสาขาพรรค โดยไม่จำเป็นต้องรอให้มีการคลายล็อคก่อน ซึ่งในระยะเวลา 90 วัน ระหว่างที่รอพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว.มีผลบังคับใช้ ก็สามารถดำเนินการจัดประชุมพรรคได้ในช่วงก่อนหรือหลัง 90 วันก็ได้
นายวิษณุ กล่าวถึงกรณีที่นายนิกร จำนงค์ ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา ตั้งข้อสังเกตว่าการหาหสมาชิกพรรคการเมืองไม่สามารถทำได้ เพราะขณะนี้ยังห้ามไม่ให้หาเสียงว่า เป็นคนละเรื่องกัน เพราะการหาเสียงเป็นการพูดกับประชาชนให้มาเลือกตนเอง แต่การหาสมาชิกพรรคสามารถทำได้หลายวิธีแต่ตนไม่สามารถพูดได้เป็นการชี้โพรงให้กระรอก และถามกลับว่าแต่ละพรรคการเมืองไปหาสมัครชิกพรรคมาได้อย่างไร ทั้งๆที่ขณะนี้มีห้ามไม่ให้หาเสียงอยู่ พร้อมยืนยันยังไม่สามารถเปิดเวทีปราศรัยกับประชาชนได้ เพราะคสช.เกรงว่าอาจจะนัยยะแอบแฝงหรือไม่ และอย่าให้ตนตอบเลยว่าการลงพื้นที่พบปะประชาชนทำได้หรือไม่