ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการท่องเที่ยวบริเวณทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและมาเลเซียเดินทางท่องเที่ยวชมความงามของทะเลหมอกอย่างคึกคัก แม้จะมีการก่อสร้างถนนและสกายวอล์คทะเลหมอกอัยเยอร์เวง
นายแวมะยูโซะ ตุสาตู นายกองค์การบริหารส่วนตำบลอัยเยอร์เวง กล่าวถึงความคืบหน้าในการก่อสร้างสกายวอล์ค บริเวณจุดชมวิวทะเลหมอก อัยเยอร์เวง ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา ภายใต้งบประมาณ 91 ล้านบาท ว่า ขณะนี้เซ็นสัญญากับผู้รับเหมาก่อสร้างแล้ว และได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างตามแผน คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวในปี 2563 โดยจะเป็นสกายวอล์คที่ยาวที่สุดในเอเชีย มีทางเดินยื่นออกไปประมาณ 50 เมตร
ภาพจำลองเมื่อสร้างแล้วเสร็จ
ในปีที่ผ่านมาทะเลหมอกอัยเยอร์เวงมีนักท่องเที่ยวประมาณ 200,000 คน ส่วนในปีนี้ เพียง 11 เดือนแรกของปีนี้ มีนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้ว 260,000 คน และคาดว่าจะสูงถึง 300,000 คนในช่วงสิ้นปีนี้ เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวไทยกลับเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น เพราะเชื่อมั่นในความปลอดภัย รวมถึงกระแสสื่อโซเชียล ที่มีการแชร์ กันในโลกออนไลน์ ขณะที่สถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ลดลง จากมาตรการรักษาความปลอดภัยและการสร้างงานให้ประชาชนในพื้นที่ให้มีรายได้อย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตามหลังจากเปิดให้บริการสนามบินเบตง และสกายวอล์คทะเลหมอกอัยเยอร์เวง คาดว่าจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มจาก 1,800 ล้านบาท เป็น 4,000-5,000 ล้านบาท ขณะที่ จำนวนนักท่องเที่ยวคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 600,000-700,000 คน เป็น 1 ล้านคน เฉลี่ยค่าใช้จ่ายต่อหัวต่อคนประมาณ 3,000 บาทต่อวันต่อคน ซึ่งขณะนี้มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่อำเภอเบตง มากขึ้น คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 40 ที่เหลือร้อยละ 60 เป็นนักท่องเที่ยวมาเลเซีย จากเดิมที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวมาเลเซีย