สหภาพแอฟริกา ซึ่งเป็นองค์กรระดับภูมิภาคที่ประกอบไปด้วย 55 ประเทศในทวีปแอฟริกา ก่อตั้งในปี 2544 เพื่อพัฒนาระบบการปกครอง สิทธิมนุษยชน และเศรษฐกิจในทวีปแอฟริกา ได้ออกมาแสดงความผิดหวังอย่างมากต่อคำพูดของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ โดยระบุว่าคำกล่าวของนายทรัมป์เป็นการไม่ให้เกียรติและสร้างความเสื่อมเสียอย่างมากให้กับประชาชนทุกคนที่อยู่ในกลุ่มประเทศแอฟริกา 

สหภาพแอฟริกายังระบุด้วยว่า พวกเขาเชื่อว่าคณะรัฐบาลของนายทรัมป์ ยังคงมีความเชื่อและความเข้าใจผิดๆอยู่มากเกี่ยวกับข้อเท็จจริงของทวีปแอฟริกา ซึ่งนี่คือบทพิสูจน์ว่าเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวและเจ้าหน้าที่ภาครัฐของทวีปแอฟริกาจะต้องมีการพูดคุยร่วมกันอย่างจริงจัง

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่สมาชิกสภาคองเกรสบางคนออกมาเปิดเผยว่าในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาตามเวลาสหรัฐฯ ว่านายทรัมป์ได้แสดงความไม่พอใจออกมาระหว่างการหารือเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้อพยพจากเฮติ เอลซัลวาดอร์ และประเทศในทวีปแอฟริกา ตามข้อตกลงว่าด้วยเรื่องผู้อพยพ หรือ DACA ที่มีทั้งสมาชิกพรรครีพับลิกันและพรรเดโมแครตร่วมกันสนับสนุน 

โดยนายทรัมป์ได้ถามขึ้นมาว่า ทำไมสหรัฐฯ จึงต้องรับคนจาก "ประเทศยากจนเหล่านี้" แทนที่จะเปิดรับคนจากประเทศแบบนอร์เวย์มากขึ้น โดยการใช้ภาษาที่รุนแรงอย่างมากด้วยคำว่า "Shitholes" หรือ ‘สถานที่โสโครก’ เรียกกลุ่มประเทศแอฟริกา ซึ่งสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์รุนแรงทั้งจากในสหรัฐฯเองรวมถึงประเทศในทวีปแอฟริกาด้วย

นอกจากนี้ นายทรัมป์ยังประกาศว่า สหรัฐฯ ควรตัดเฮติออกจากรายชื่อคุ้มครองผู้อพยพในทุกข้อตกลง ไม่ควรรับชาวเฮติเพิ่ม และควรไล่ชาวเฮติออกจากประเทศด้วย โดยตั้งคำถามว่าแทนที่สหรัฐฯจะรับผู้อพยพจากประเทศยากจน เหตุใดสหรัฐฯจึงไม่ต้อนรับประชาชนจากประเทศอื่นอย่างเช่นนอร์เวย์ หรือไม่ก็ชาวเอเชีย ที่จะสร้างประโยชน์ให้กับเศรษฐกิจสหรัฐฯมากกว่า 

นอกจากนี้ นายทรัมป์ยังทวีตข้อความโจมตีคำตัดสินของศาลสูงสุดสหรัฐฯที่ระบุว่าโครงการดากา ที่ให้ความคุ้มครองผู้อพยพซึ่งเข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมายตั้งแต่ยังเด็ก ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ และไม่สามารถถูกสั่งให้ยุติโครงการได้ ทำให้ผู้อพยพวัยเยาว์กว่า 800,000 คนที่หลบหนีเข้าสหรัฐฯอย่างผิดกฎหมาย ที่ส่วนมากเป็นชาวลาตินอเมริกา ยังคงอยู่ในสหรัฐฯต่อไปได้ โดยนายทรัมป์ซึ่งเป็นผู้สั่งล้มเลิกโครงการนี้เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ระบุว่าระบบการทำงานของศาลสหรัฐฯล้มเหลวและไม่ยุติธรรม