อัยการซาอุดีอาระเบียประกาศว่าจะยื่นเสนอโทษประหารชีวิตด้วยการตัดคอจำเลย 5 คนที่สั่งการและเกี่ยวข้องโดยตรงกับการสังหารนายจามาล คาชอกกี ผู้สื่อข่าวที่เสียชีวิตในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบียในนครอิสตันบูลของตุรกี และยังเตรียมตั้งข้อหาผู้ต้องสงสัยอีก 6 คนที่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมครั้งนี้
อัยการเปิดเผยว่า นายอาหมัด อัล-อัสสิริ รองผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองของซาอุดีอาระเบียอยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตของนายคาชอกกี เพราะเขาเป็นผู้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ 15 คนบังคับให้นายคาชอกกีเดินทางกลับซาอุดีอาระเบีย โดยมีการวางแผนกันตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย. และแบ่งเจ้าหน้าที่ออกเป็น 3 ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายเจรจา ฝ่ายหน่วยข่าวกรอง และฝ่ายโลจิสติกส์
นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเผยรายละเอียดว่า ในวันที่ 2 ต.ค. นายคาชอกกีถูกสังหาร หลังการทะเลาะเบาะแว้งและต่อสู้กันในสถานกงสุล โดยหัวหน้าฝ่ายเจรจาเป็นผู้สั่งการสังหาร จากนั้น นายคาชอกกีก็ถูกมัดและฉีดยาสลบเกินขนาดจนเสียชีวิต ก่อนที่จะมีการหั่นศพนายคาชอกกี แล้วแจกจ่ายไปให้ผู้สมรู้ร่วมคิดไปทิ้ง
"ไปบอกเจ้านายของคุณด้วย"
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวเดอะ วอชิงตัน โพสต์รายงานว่า คลิปเสียงที่นางจีนา แฮสเปล ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ ซีไอเอได้รับมา มีรายละเอียดบทสนทนาที่หนึ่งในทีมสังหารนายคาชอกกีกล่าวกับปลายสายว่าให้ "ไปบอกเจ้านายของคุณด้วย" ซึ่งมีการสันนิษฐานว่าจะหมายถึงเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฏราชกุมารของซาอุดีอาระเบีย
ด้านนายเรเจป ทายยิป เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกีกล่าวว่า คลิปเสียงดังกล่าวเป็น "หายนะที่แท้จริง" ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของซาอุดีอาระเบียตกใจอย่างมาก แต่ทางการซาอุดีอาระเบียก็ยังยืนยันว่า เจ้านายโมฮัมเหม็ด และสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน กษัตริย์ซาอุดีอาระเบียไม่มีส่วนรู้เห็นกับการฆาตกรรมนายคาชอกกี
จามาล คาชอกกีเป็นใคร?
จามาล คาชอกกีเคยเป็นที่ปรึกษาราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย ก่อนจะถูกปลดออกจากคณะที่ปรึกษาเมื่อเจ้านชายโมฮัมเหม็ดขึ้นมาเป็นมกุฏราชกุมาร จากนั้นนายคาชอกกีได้เขียนข่าวและบทความให้กับสำนักข่าวชั้นนำของโลกหลายสำนัก แต่เมื่อปี 2017 คาชอกกีออกจากซาอุดีอาระเบียและเดินทางไปอาศัยในสหรัฐฯ และวิพากษ์วิจารณ์ราชวงศ์ซาอุดีอาระเบียอยู่บ่อยครั้ง
ที่ผ่านมา เขาวิจารณ์นโยบาย 'ปฏิรูป' ประเทศให้ทันสมัยขึ้นของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฏราชกุมารแห่งราชวงศ์ซาอุด ว่าเป็นเพียงนโยบายที่พระองค์ทรงนำมาบังหน้านโยบายอื่นๆ เช่น การลงทุนหลายล้านล้านดอลลาร์ไปกับการสร้าง 'เมืองแห่งอนาคต' หรือการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่างๆ
ที่มา : The Guardian, CNN
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :