ไม่พบผลการค้นหา
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดตัวทีมงานรุ่นใหม่ ชูลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน แก้ปัญหาปากท้อง ด้าน 'เศรษฐพงค์' โดดเล่นการเมืองรับโฆษกพรรคไม่ทำหน้าที่ตอบโต้ทางการเมือง ปัดทาบมานั่ง รมต.

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แถลงข่าวเปิดตัวคณะทำงานของหัวหน้าพรรค หรือ New Blood ซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์ เป็นคนใหม่ที่สนใจการเมืองเข้าร่วมทำงาน โดยชูแนวทางการลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน นำไปสู่การแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชน พร้อมย้ำว่าจะไม่มีคนตระกูลชิดชอบเข้ามาครอบงำแต่อย่างใด

โดยด้านดิจิตอลเวิลด์ การนำประเทศไทยก้าวเข้าสู่โลกยุคดิจิตอล มี พ.อ. ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ อดีตรองประธาน กสทช. เป็นผู้รับผิดชอบ ด้านการศึกษา เน้นการแก้ปัญหาเก่า และสร้างทางเลือกใหม่ โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างหนี้ กยศ. ซึ่งมี ดร.พโยม ชินวงศ์ อดีตเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาภาคเอกชน เป็นผู้รับผิดชอบ

ด้านการเกษตร จะเน้นการสร้างระบบแบ่งปันผลประโยชน์ให้กับเกษตรกร มีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคเป็นผู้รับผิดชอบ ด้านการท่องเที่ยวและบริการ เน้นระบบ Sharing Economy โดยยก Burirum Model เป็นต้นแบบ ซึ่งมีนายทอม เครือโสภณ เป็นผู้รับผิดชอบด้านนี้ ด้านสาธารณสุข เน้นการพัฒนาการทำงานของ อสม.ทั้งระบบ โดยมีนพ.สำเริง แหยงกระโทก เป็นผู้รับผิดชอบ

ส่วนด้านการพัฒนาพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีแนวคิดการสร้างเขตพัฒนาพิเศษ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยใช้พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเป็นต้นแบบ โดยมี พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา เป็นผู้รับผิดชอบ

ขณะที่ พ.อ.เศรษฐพงค์ ซึ่งทำหน้าที่โฆษกพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า ตัดสินใจเข้าร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยหลังได้รับการติดต่อทาบทามจากนายอนุทิน เพื่อนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดิจิตอลมาใช้แก้ไขปัญหาปากท้องให้กับประชาชน 

เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ภูมิใจไทย Cover Template.jpg

(พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ อดีตรองประธาน กสทช. และโฆษกพรรคภูมิใจไทย)

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการทำหน้าที่หัวหน้าพรรคในสมัยที่สอง ที่เรียกว่าภูมิใจไทยยุคใหม่ ซึ่งเน้นเดินหน้าไปสู่อนาคตไม่มองกลับไปยังอดีต โดยมีทีมงานซึ่งเป็นคนมีประสบการณ์มาร่วมงาน อย่างเช่น พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ที่มาเป็นโฆษกพรรค ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องครั้งหนึ่งในชีวิต ซึ่ง พ.อ.เศรษฐพงค์จะไม่มีหน้าที่ตอบโต้ทางการเมือง แต่จะเป็นหน้าที่ของหัวหน้าและเลขาธิการพรรรค 

ส่วนจะวางตัวให้เป็นรัฐมนตรีหรือไม่นั้น นายอนุทินไม่ปฏิเสธ เพียงแต่บอกว่าขอให้มีการเลือกตั้งและทำตามเป้าหมายในการเป็นส.ส.ให้ได้ก่อน

เมื่อถามถึงความชัดเจนของตระกูลสะสมทรัพย์ที่จะเข้ามาร่วมทำงานนั้น นายอนุทิน ระบุว่า ยังมีเวลาในการคัดเลือกบุคคลเพื่อให้ได้คนที่ดีที่สุด เป็นการไพรมารีภายในพรรรค พร้อมกับเชื่อมั่นว่าพรรคภูมิใจไทยยังสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ ในช่วงที่ กกต.ห้ามพรรคการเมืองรับเงินบริจาค เพราะคนที่จะมาเป็นสมาชิกและผู้สมัครส.ส.ของพรรคจะต้องมีความพร้อมและประสบความสำเร็จในทุกเรื่องแล้ว ภูมิใจไทยไม่ใช่ที่แสวงหาอำนาจ หรือสิทธิประโยชน์ 

นายอนุทิน ยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยไม่มีพรรคสาขา ไม่มีสาขาย่อย และจะไม่เป็นพรรคอะไหล่ โดยพร้อมเป็นพรรคการเมืองให้ประชาชนเลือก และจะต้องเป็นผู้เลือกพรรคการเมืองอื่นหากจะจัดตั้งรัฐบาลร่วม ไม่ใช่ให้พรรคการเมืองเป็นผู้เลือก แต่ทุกอย่างต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มีความชอบธรรม เป็นที่ยอมรับโดยสากล ไม่ขัดต่อวัฒนธรรมอันดีงามทางการเมือง และต้องขึ้นอยู่กับความไว้วางใจของประชาชนผ่านการเลือกตั้ง