นายอีลอน มัสก์ CEO ของ SpaceX และผู้ก่อตั้งบริษัทรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มาแรงที่สุดแห่งยุคอย่าง Tesla ประกาศจะมีการทดสอบการปล่อยจรวดรุ่นใหม่ล่าสุดจาก SpaceX ภายในเดือนหน้า ซึ่งจุดหมายปลายทางของยานลำนี้คือดาวอังคารพร้อมกับการบรรทุกรถยนต์ เทสลา โรดสเตอร์ ซึ่งเป็นรถยนต์สปอร์ตสีแดงรุ่นแรกที่ผลิตโดยเทสลาขึ้นไปกับจรวด ที่น่าสนใจมากกว่านั้น นายมัสก์เปิดเผยว่าจะมีการเปิดเพลงสุดคลาสสิคอย่าง สเปซ ออดดิตี (Space Oddity) ของนักร้องดัง เดวิด โบวี ตลอดการเดินทางอีกด้วย
จรวดลำนี้มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า ฟอลคอน เฮวีย์ จะถูกยิงขึ้นจากศูนย์ควบคุมการยิงจรวด เคนเนดี สเปซ เซ็นเตอร์ ขององค์การนาซา ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทางตะวันออกของเมืองออร์แลนโด มลรัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นฐานยิงจรวดเดียวกันกับการส่งยานอะพอลโล 11 ขึ้นสู่อวกาศเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 1969
ที่ผ่านมา แม้ SpaceX จะประสบกับปัญหามากมายในการพัฒนาอุตสาหกรรมจรวดของสหรัฐฯ เช่นการระเบิดของจรวดส่งดาวเทียมเมื่อเดือนกันยายน 2016 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเมื่อเดือนมกราคม 2017 SpaceX ก็สามารถส่งจรวดส่งดาวเทียม ฟอลคอน ไนน์ ขึ้นสู่อวกาศได้สำเร็จ และมีลูกค้าบริษัทเอกชนต่อคิวยาวเหยียดเพื่อใช้บริการจรวดส่งดาวเทียมของ SpaceX ซึ่งหลายฝ่ายให้การยอมรับว่า SpaceX คือหนึ่งในผู้นำเทคโนโลยีอวกาศที่มาแรงที่สุดในยุคนี้และมีความทะเยอทะยานอย่างมากในการปฏิวัติวงการเทคโนโลยีการสร้างจรวด ซึ่งนายมัสก์ได้กล่าวอย่างมั่นในว่า หากจรวด ฟอลคอน เฮวีย์ ไม่เกิดระเบิดขึ้นที่ฐานส่งจรวดเสียก่อนก็จะสามารถปฏิบัติภารกิจในอวกาศได้อย่างยาวนาน
อย่างไรก็ตามนายมัสก์เคยประกาศว่าจะปล่อยจรวด ฟอลคอน เฮวีย์ ไว้ก่อนหน้านี้หลายปีแล้ว โดยในช่วงต้นปีก็เคยกล่าวไว้ว่าจรวดฟอลคอน เฮวีย์ จะถูกยิงขึ้นสู่อวกาศในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่ขณะนี้ก็ยังไม่มีการประกาศกำหนดการที่ชัดเจนแต่อย่างใด ช่วงเวลาคร่าวๆที่เป็นที่ทราบกับในวงกว้างคือนายมัสก์ต้องการให้จรวดขนส่งอุปกรณ์ต่างๆไปลงจอดที่ผิวของดาวอังคารให้ได้ในปี 2022 และขนส่งมนุษย์ไปยังดาวอังคารให้ได้ในปี 2024 ซึ่งการจะทำเช่นนั้นได้จะต้องใช้จรวดที่มีขนาดใหญ่มาก โดยมีการตั้งชื่อจรวดไว้ว่า บีเอฟอาร์ ที่ย่อมาจาก Big Falcon Rocket (บิก ฟอลคอน ร็อกเก็ต) ซึ่งมีการเรียกชื่อกันเล่นๆเป็นการภายในว่า "Big F**king Rocket