อาลีบาบา ได้เผยแพร่ถ้อยแถลงในจดหมายของ แจ็ค หม่า ซึ่งระบุว่าหม่าจะวางมือจากตำแหน่งประธานของบริษัทในวันที่ 10 กันยายน ปี 2019 หรืออีก 1 ปีนับจากนี้ โดยจะมอบหมายให้ แดเนียล ชาง รองประธาน ได้ขึ้นมาสืบทอดตำแหน่งแทนต่อไป โดยหม่าได้ระบุว่าเขาจะทำงานร่วมกับ แดเนียล ชาง อย่างใกล้ชิด เพื่อให้การสืบทอดตำแหน่งเป็นไปอย่างราบรื่น

แจ็ก หม่า ระบุว่าเขาใช้เวลาในการไตร่ตรองถึงแผนการสละตำแหน่งครั้งนี้นานถึง 10 ปีเต็ม ซึ่งถึงเวลาอันสมควรแล้วที่จะส่งไม้ต่อให้กับ แดเนียล ชาง และทีมงาน ซึ่งจากประสบการณ์การทำงานร่วมกันมา หม่ารู้ว่าคนกลุ่มนี้มีความพร้อมมากแค่ไหน อย่างไรก็ตาม หม่า ซึ่งปัจจุบันอายุ 54 ปี จะยังคงดำรงตำแหน่งคณะกรรมการที่ปรึกษาของอาลีบาบา และจะยังคงทำหน้าที่ให้คำแนะนำแก่คณะผู้บริหารระดับสูงต่อไปจนกระทั่งหมดวาระหลังการประชุมใหญ่ของบริษัทในปี 2020 

ในช่วงหลังๆ แจ็ค หม่า ได้หันไปทุ่มเทเวลาให้กับกิจกรรมการกุศล และงานด้านการศึกษา และยังใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการสัมมนาด้านธุรกิจและเทคโนโลยี ทั้งในจีนและในต่างประเทศ และเมื่อไม่นานมานี้หม่าให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กว่า เขาต้องการก่อตั้งมูลนิธิของตัวเอง ตามรอยแนวทางของบิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งบริษัท ไมโครซอฟท์

แจ็ค หม่าได้รับการจัดอันดับให้เป็นคนรวยอันดับที่ 3 ของจีน ตามการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์ในปี 2017 ซึ่งหม่าถือว่าเป็นบุคคลต้นแบบที่คนจำนวนมากพยายามจะเดินรอยตาม ในฐานะคนที่ผลักดันตัวเองและสร้างเนื้อสร้างตัวจากอดีตครูสอนภาษาอังกฤษซึ่งไม่มีพื้นฐานด้านเทคโนโลยี จนกลายมาเป็นผู้นำธุรกิจอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของโลก และหม่ายังมีหน้าที่สำคัญในการเชื่อมสัมพันธ์ทางการเมืองกับทุกประเทศที่เขาเข้าไปทำธุรกิจ อย่างเช่นการเข้าพบนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และการเจรจากับผู้นำหลากหลายประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งรวมถึงไทยด้วย เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจให้เติบโตอย่างไม่สะดุดในพื้นที่ที่เป็นตลาดใหญ่ของอาลีบาบา