ที่ห้องพญาพิภักดิ์ ศาลากลาง จ.เชียงราย วรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย นายเเพทย์ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย และนายแพทย์สมศักดิ์ อุทัยพิลย์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ แถลงข่าว ถึงสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ใน จ.เชียงราย โดยระบุว่าได้พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มอีก 2 ราย เป็นหญิงอายุ 25 ปี
ส่งผลทำให้ จ.เชียงราย พบผู้ติดเชื้อรวมกันจำนวน 11 ราย โดยเป็นการติดเชื้อภายนอกศูนย์ตรวจกักดูอาการหรือ State local Quarantine จากผู้ที่เดินทางมาจาก จ.ท่าขี้เหล็ก จำนวน 6 ราย และในศูนย์ฯ จำนวน 5 ราย
2 รายล่าสุดทำงานในโรงแรมวันจีวัน จ.ท่าขี้เหล็ก คนแรกมีอาการไอ มีเสมหะ มีน้ำมูกและจมูกไม่ได้กลิ่น ส่วนอีกคนมีไข้และปวดเมื่อยตามตัว
โดยก่อนพบเชื้อ ได้มีเพื่อนคนหนึ่งที่ทำงานอยู่ที่เดียวกันได้หลบหนีเข้าทางช่องทางธรรมชาติสู่ อ.แม่สาย แล้วไปพักบ้านแฟน ต่อมาเมื่อวันที่ 27 พ.ย.ได้มีหญิงสาว 4 คนที่เป็นเพื่อนที่ทำงานที่เดียวกันข้ามมาพักด้วยกันและพากันไปเที่ยวสถานบันเทิงใน อ.แม่สาย ก่อนที่วันต่อมาทั้ง 4 คนจะเดินทางไปทาง อ.เมืองเชียงราย
ต่อมาค่ำวันที่ 28 พ.ย.ผู้พบเชื้อรายใหม่ทั้ง 2 คน ได้ลักลอบข้ามชายแดนมาพักที่บ้านแฟนของหญิงสาวคนแรกทดแทนกลุ่มเดิมที่พึ่งเดินทางจากไป อย่างไรก็ตามหลังจากมีข่าวการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ใน จ.ท่าขี้เหล็ก หญิงสาวคนแรกจึงได้ไปตรวจหาเชื้อที่คลินิกเอกชนแห่งหนึ่งใน อ.แม่สาย แต่ไม่พบเชื้อจึงได้โทรศัพท์ชวนเพื่อนอีก 2 คนไปตรวจก็ไม่พบเชื้อเช่นกัน ช่วงเย็นจึงออกไปซื้อของที่ตลาดและกลับที่พัก
กระทั่งวันที่ 2 ธ.ค. คนในกลุ่มมีไข้จึงโทรศัพท์แจ้งโรงพยาบาลแม่สายเพื่อให้ไปรับ
เมื่อตรวจก็พบว่าหญิงสาวที่ข้ามมาขอพักด้วย 2 คนติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่วนหญิงสาวคนแรกที่พักบ้านแฟนกลับไม่พบเชื้อ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจและรอยืนยัน
วรวิทย์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีคนไทยที่ตกค้างอยู่ใน จ.ท่าขี้เหล็ก คาดว่ามีประมาณ 400 คน และล่าสุดในวันนี้ได้แจ้งผ่านคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมา ระดับท้องถิ่นขอข้ามมาเพิ่มเติมจำนวน 40 คน ส่วนคนที่ข้ามมาแล้วมีจำนวน 67 คน ทั้งหมดอยู่ใน State local Quarantine
สำหรับสถานบันเทิงที่ผู้ป่วยรายที่ 7 ที่พบเชื้อใน อ.เมืองเชียงราย ทำงานอยู่คือร้าน 8080 ได้ให้ปิด 14 วัน และร้านที่ผู้ป่วยและเพื่อนพากันไปดื่มกินอีก 3 แห่งได้ปิด 7 วัน ช่วงนี้ได้เข้าสู่กระบวนการฆ่าเชื้อและทำความสะอาด ซึ่งจากการรายต่างๆ พบว่าสามารถควบคุมได้ดังนั้นหากวันที่ 20 ธ.ค.นี้เป็นต้นไปไม่พบเพิ่มเติมก็จะเข้าสู่ภาวะปลอดภัยได้
อ่านข่าวอื่นๆ :