วันที่ 29 ก.ย. 2565 ร.ท.ธนเดช เพ็งสุข ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. (เขตลาดพร้าว-วังทองหลาง) พรรคก้าวไกล ระบุถึงพิธีการในการขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดของ ผบ.ทอ. กรณีที่กองทัพอากาศไทย ปิดน่านฟ้าสนามบินดอนเมืองเพื่อทำพิธีอำลา-รับส่งหน้าที่ ‘ผู้บัญชาการกองทัพอากาศ’ (ผบ.ทอ.) คนใหม่ ในวันที่ วันที่ 23, 27, และ 30 ก.ย. 2565 เวลา 13.45-14.45 น.ทำให้เที่ยวบินดีเลย์และประชาชนจำนวนมากเดือดร้อน
ร.ท.ธนเดชกล่าวว่า ก่อนอื่นในฐานะรุ่นน้องก็ต้องขอแสดงความยินดีต่อผู้บัญชาการทหารอากาศ คนใหม่ แต่อยากจะเสนอแนะ และท้วงติง ถึงพิธีการในการขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดของท่านได้สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน เป็นจำนวนมาก
“ท่านมิอาจรู้ได้เลยว่าในระหว่างที่ท่านปิดน่านฟ้าอยู่นั้น อาจจะมีน้องๆนักศึกษา ที่กำลังบินกลับมาสอบ อาจจะมีลูกที่กำลังเร่งรีบไปเยี่ยมเยียนผู้ปกครองของเขาในวาระสุดท้าย อาจจะมีผู้ป่วยที่กำลังรีบเดินทางไปรักษาตัว และที่สำคัญไปกว่านั้น ในสถานการณ์ที่ประเทศกำลังอยู่ในวิกฤษเศรษฐกิจ ประชาชนยังมีความยากลำบาก แต่กิจกรรมการรับส่งหน้าที่ของท่าน ยังใช้งบประมาณ ที่มาจากภาษีประชาชนอีกจำนวนมาก”
โดย ร.ท.ธนเดชกล่าวถึงค่าใช้จ่ายที่ประชาชนต้องแบกรับจากการจัดอีเวนท์ครั้งนี้ของกองทัพอากาศว่า การบินครั้งนี้ จากภาพถ่ายที่เห็น ใช้เครื่องบินทั้งหมด 9 ลำ ใช้งบประมาณเฉพาะค่าใช้จ่ายสิ้นเปลือง เช่น ค่าน้ำมัน 2,650,592 บาท ตลอดการบินทั้ง 3 วัน ไม่นับค่าใช้จ่ายอื่น เช่น ค่าใช้สนามบิน ค่าบุคลากร ค่าจัดพิธีกรรม และที่เรามองไม่เห็นคือความเสียหายทางเศรษฐกิจที่มาจากค่าเสียโอกาสของประชาชน
“ถ้าเราคิดเฉพาะความสิ้นเปลืองของอากาศยาน การขึ้นบินต่อชั่วโมงของฝูงบินกองทัพอากาศในครั้งนี้
เครื่องบิน Grippen 4 ลำ มีต้นทุนลำละ 99,023.83 บาท/ชม. คิดเป็นเงิน 396,095.32 บาท/วัน บิน 3 วันคิดเป็นเงิน 1,188,286 บาท
เครื่องบิน T-50 3 ลำ มีต้นทุนลำละ 94,297.73 บาท/ชม. คิดเป็นเงิน 282,893.19 บาท/วัน บิน 3 วันคิดเป็นเงิน 848,680 บาท
เครื่องบิน F-16 2 ลำ มีต้นทุนลำละ 102,271.07 บาท/ชม. คิดเป็นเงิน 204,542.14 บาท/วัน บิน 3 วันคิดเป็นเงิน 613,626 บาท รวมค่าดำเนินการ 2,650,592 บาท” ร.ท.ธนเดชกล่าว
“ผมขอฝากการบ้าน และข้อเสนอแนะข้อนี้ถึงผู้บังคับบัญชาระดับสูง ว่าการขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุด ที่จะถูกพูดถึงต่ออย่างเป็นตำนาน นั้น มิจำเป็นต้องจัดงานใหญ่โตให้หรู เสมอไป หากแต่ควรคิดคำนึงอย่างรอบคอบ ถึงการใช้ภาษีของประชาชน ไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น และดำรงตำแหน่งสูงสุดนี้ ด้วยความมีเกียรติ อย่างซื่อสัตย์ และสุจริต เป็นที่รักของผู้ใต้บังคับบัญชาและอยู่เคียงข้างประชาชน เพียงแค่นี้ ตำแหน่งที่ท่านดำรงอยู่ ก็จะกลายเป็นตำนานกล่าวขาน โดยมิต้องจัดงานรับส่งให้ใหญ่โต ด้วยความเคารพรัก ” ร.ท.ธนเดชกล่าว
'โฆษก ทอ.' แจงดำรงธรรมเนียมสวนสนามทางอากาศ เทิดเกียรติผู้นำ ขออภัยประชาชน
ขณะที่เฟซบุ๊ก วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหาร ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า พล.อ.ต.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ ชี้แจงอีกครั้ง กรณีการบินสวนสนามทางอากาศของกองทัพอากาศ เพื่อเทิดเกียรติต่อ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ที่จะเกษียณอายุราชการ และผู้บัญชาการทหารอากาศ ที่จะเข้ารับตำแหน่งท่านใหม่
เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการบิน กองทัพอากาศจึงขอสงวนการใช้ห้วงอากาศบางส่วน สำหรับพิธีสวนสนามทางอากาศ โดย ความสำคัญของการสวนสนามทางอากาศนั้น เป็นธรรมเนียมของกองทัพอากาศ ที่จะจัดการบินสวนสนามทางอากาศ เพื่อแสดงออกถึง การส่งมอบศักยภาพ และแสนยานุภาพในการทำหน้าที่ของกองทัพอากาศ และเป็นการบินเพื่อเทิดเกียรติแก่บุคคลสำคัญ และผู้บังคับบัญชาระดับสูง ผู้ประกอบคุณงามความดีให้แก่ประเทศชาติ
กองทัพอากาศ จึงดำรงธรรมเนียมการสวนสนามทางอากาศเช่นนี้ ไว้สืบต่อไป ซึ่งการบินดังกล่าว มีการปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อแสดงให้กำลังพลทหารอากาศ และพี่น้องประชาชน ได้เห็นถึงความพร้อมของกองทัพอากาศ เสริมสร้างขวัญ กำลังใจ และมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของกำลังทางอากาศ
ในโอกาสนี้ กองทัพอากาศ ต้องขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นต่อพี่น้องประชาชนที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างสูง ทั้งนี้ได้พิจารณาปรับห้วงเวลาการสวนสนามทางอากาศ ตลอดจนรายละเอียดที่เกี่ยวข้องให้เกิดความกระชับและรวดเร็ว เพื่อลดผลกระทบกับเที่ยวบินโดยสารและความไม่สะดวกที่อาจเกิดขึ้นต่อพี่น้องประชาชนที่เกี่ยวข้องให้น้อยที่สุด
มีรายงานว่า การสวนสนามทางอากาศ ครั้งนี้ มีเครื่องบิน F-16, T-50, Gripen, AU-23