แถลงการณ์ร่วมในการถอนตัวจากแคมเปญดังกล่าว ถูกปล่อยออกมาในวันที่ 20 พ.ย. เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนการแข่งขันระหว่างทีมชาติอิหร่านและอังกฤษ โดยมีการกล่าวโทษว่าที่มาของการตัดสินใจดังกล่าวคือการที่ฟีฟ่าข่มขู่ว่าจะมีการลงโทษทางวินัยต่อทีมชาติที่ขัดขืน
แม้ว่าทีมชาติต่างๆ ที่เข้าร่วมแคมเปญก่อนหน้านี้จะกล่าวอย่างชัดเจนว่า พวกตนพร้อมจ่ายค่าปรับหากมีการลงโทษด้วยการปรับเงิน แต่ในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 7 ทีมชาติยุโรป ได้มีการกล่าวถึงการข่มขู่ว่าจะลงโทษโดยการแบนออกจากการแข่งขัน โดยระบุว่า “ฟีฟ่ากล่าวอย่างชัดเจนว่าจะทำการคว่ำบาตรทีมชาติของพวกเรา หากกัปตันทีมสวมปลอกแขนสีรุ้งในสนาม”
“เราไม่สามารถนำนักกีฬาของพวกเราเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่พวกเขาจะถูกบังคับให้ออกจากสนามได้”
ก่อนจะมีแถลงการณ์ดังกล่าวขึ้น จิอันนี อินฟานติโน ประธานของฟีฟ่าได้กล่าวเปิดการแข่งขันฟุตบอลโลกโดยได้พูดถึงการโอบกอดความแตกต่างหลากหลาย “ขอต้อนรับเพื่อนๆ ของเราสู่การแข่งขันฟุตบอลโลกกาตาร์ 2022 ยินดีต้อนรับสู่การเฉลิมฉลองกีฬาฟุตบอล กีฬาที่หลอมรวมคนทั้งโลกไว้ด้วยกัน” อินฟานติโนกล่าว
ถึงกระนั้น การตัดสินใจในการข่มขู่ทีมชาติต่างๆ ของฟีฟ่ากลับไม่ได้สะท้อนใจความของสุนทรพจน์ดังกล่าวเลย เนื่องจากฟีฟ่าได้ทำการริดรอนสิทธิของกัปตันทีมชาติต่างๆ เช่น แฮร์รี่ เคน กัปตันทีมชาติอังกฤษ หรือ มานูเอล นอยเออร์ กัปตันทีมชาติเยอรมนี ที่ตั้งใจที่จะสวมปลอกแขนเพื่อแสดงจุดยืน
“เรากำลังเผชิญกับเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของการแข่งขันฟุตบอลโลก” เบิร์นด์ นอยเอินดอร์ฟ ประธานสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งชาติเยอรมนีกล่าว “เราจะไม่เผชิญหน้ากับฟีฟ่าโดยมีมานูเอล นอยเอร์ เป็นตัวประกัน”
ก่อนหน้านี้ นอยเออร์เคยออกมาแสดงจุดยืนว่าเขา “ไม่กลัวถึงผลกระทบที่ตามมา” เนื่องจากเขามีสมาคมฟุตบอลแห่งชาติเยอรมนี และประธานขององค์กรคอยหนุนหลัง อย่างไรก็ตาม นอยเอินดอร์ฟเองก็ได้กล่าวว่า “ปัญหาอย่างหนึ่งคือ เราไม่รู้ว่าเราจะเผชิญกับการลงโทษในรูปแบบใดหากเรายืนกรานที่จะผลักดันแคมเปญ”
สมาคมผู้สนับสนุนกีฬาฟุตบอลกล่าวว่า พวกเขารู้สึก “ถูกหักหลัง” จากการตัดสินใจของฟีฟ่า
“วันนี้พวกเรารู้สึกโดนดูถูกโดยองค์กรที่แสดงธาตุแท้ของตนออกมาผ่านการให้ใบเหลืองกับนักกีฬา และให้ใบแดงต่อการยอมรับความหลากหลาย” สมาคมแถลง “สิทธิ์ในการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกไม่ควรถูกหยิบยื่นให้เพียงเพราะเหตุผลด้านเม็ดเงินอีกต่อไป ไม่ควรมีประเทศที่ไม่ให้ความสำคัญกับสิทธิของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ สิทธิสตรี สิทธิแรงงาน และสิทธิมนุษยชนอันเป็นสากล ได้รับเกียรติในการจัดฟุตบอลโลกอีก”
แคมเปญ One Love เป็นแคมเปญที่ริเริ่มโดยประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อสนับสนุนการเปิดรับความหลากหลายและความเท่าเทียม ในเวทีการแข่งขันฟุตบอลโลก โดยก่อนหน้านี้ ประเทศที่ตัดสินใจเข้าร่วมแคมเปญได้แก่ อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม เดนมาร์ก เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และเวลส์
ฟีฟ่าได้รับข้อมูลว่าทีมชาติยุโรปต่างๆ จะสวมปลอกแขนสีรุ้งในกาตาร์ตั้งแต่เดือน ก.ย. แต่ในวันจันทร์ที่ผ่านมา (21 พ.ย.) ฟีฟ่าได้ออกแถลงการณ์ว่าพวกตนเป็น “องค์กรที่โอบรับความหลากหลายที่ต้องการทำให้ฟุตบอลสร้างประโยชน์ให้กับสังคม โดยการสนับสนุนวัตถุประสงค์ที่ดีงามและชอบธรรม แต่ก็จำเป็นต้องกระทำภายในกรอบของกฎระเบียบในการแข่งขันที่ทราบโดยทั่วกัน”
ทั้งนี้ ฟีฟ่ายื่นข้อเสนอประนีประนอมให้กับทีมชาติต่างๆ ในการกล่าวว่า กัปตันทีมของทีมชาติทั้ง 32 ทีม จะมีโอกาสในการสวมปลอกแขนที่มีข้อความว่า “หยุดการกีดกั้น” ในการแข่งขันแทนปลอกแขนสีรุ้ง
ที่มา:
https://www.dw.com/en/world-cup-2022-onelove-campaign-hit-by-threat-of-fifa-sanctions/a-63818810