การเมือง
บทพิสูจน์ 'สุรเชษฐ์' เส้นทางเดินใหม่ – หลัง คสช. พ้นอำนาจ
เป็นชะตาที่ ‘ดาวรุ่งวงการสีกากี’ ของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ต้องพบเจอ หลังเป็นดาวรุ่งที่ถูกจับตามองมาตลอด 5 ปี และพลิกในช่วงเพียง 5 วัน
ด้วยที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เป็นนายตำรวจที่ใกล้ชิด ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ในฐานะมือทำงานด้าน ตร. เพราะ พล.อ.ประวิตร มีตำแหน่วพ่วงคือ ประธาน ก.ตร. ด้วย ทำให้มีการมองว่าจะเป็น ‘แรงสะเทือน’ มายัง พล.อ.ประวิตร - คสช. หรือไม่ ?
ท่ามกลางช่วงที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร เก็บตัวเงียบตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย. เป็นต้นมา และลาประชุม ครม. ในวันที่ ครม. รับทราบถึงการโอนย้าย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ประจำที่ทำเนียบฯ
โดย พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ให้เหตุผลว่า พล.อ.ประวิตร ลาป่วย เพราะมีอาการท้องเสีย มีไข้ จนมาถึงวันที่ 10 เม.ย. ที่ พล.อ.ประวิตร ได้เข้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ เพื่อเข้ารดน้ำและขอพร ‘ป๋าเปรม’พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เนื่องในวันสงกรานต์
แต่ พล.อ.ประวิตร มีการพันผ้าก็อตที่มือขวา โดยนายทหารใกล้ชิด เปิดเผยว่า มาจากการให้น้ำเกลือ ไม่ใช่หกล้ม
ต่อมาวันที่ 11เม.ย. นายกฯ ได้เปิด ทำเนียบฯ ให้รองนายกฯ รัฐมนตรี ผบ.เหล่าทัพ เข้ารดน้ำขอพรเช่นกัน โดย พล.อ.ประวิตร ได้ถอดผ้าก็อตออกแล้ว พร้อมทำบุญ ร่วมประเพณีรดน้ำสงกรานต์ แต่ พล.อ.ประวิตร ได้ยืนให้เพียงรัฐมนตรีรดน้ำขอพรเท่านั้น ก่อนเดินทางออกจากทำเนียบฯ โดยไม่ได้ให้ ผบ.เหล่าทัพ ได้รดน้ำขอพร
ปรากฏการณ์ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ตั้งแต่ 5 เม.ย.เป็นต้นมา ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ก็ต่างปฏิเสธตอบคำถามในเรื่องนี้ อีกทั้งยังคงเป็นคำถามถึง ‘สาเหตุ’ ที่เกิดขึ้น ท่ามกลางกระแสข่าวต่างๆที่ตีความกันอย่างซับซ้อน แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการตั้งคณะกรรมการฯขึ้นมาดูในเรื่องเหล่านี้หรือการดำเนินคดี
แต่ในคำสั่ง มาตรา 44 ในการโอน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ นั้น ระบุถึงการอาศัยอำนาจตามในข้อ 1 และ 5 ของคําสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 16/2558 เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างถูกตรวจสอบและการกำหนดกรอบอัตรากำลังชั่วคราว ซึ่งในเรื่องนี้ ‘วิษณุ เครืองาม’ รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุถึงการออกคำสั่งที่ผ่านมา ของกรณีคําสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 16/2558 ด้วย
“คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 16/2558 มีหลายลักษณะทั้งมาเพื่อจะสอบสวน สอบสวนแล้วไม่ผิด มาแล้วไม่สอบสวน และสอบสวนแล้วถึงมา และกรณีนี้ ผมก็ไม่ทราบว่าจะมีการสอบสวนหรือไม่ ทั้งนี้ต้นเรื่องของการย้ายมาครั้งนี้ไม่มีเรื่องเกี่ยวกับการทุจริต” นายวิษณุ กล่าว
แม้ที่ผ่านมาจะมีการระบุว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ได้รับมอบหมายให้มาดูแลในกรณีของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ แต่สุดท้าย พล.ต.อ.ศรีวราห์ ก็ออกมาปฏิเสธว่า ยังไม่ได้รับการมอบหมายใดๆมาทั้งสิ้น
ที่สำคัญในช่วงนี้ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์ ก็มีมุมภาพที่มีความใกล้ชิดมากขึ้น จะเห็นได้จากตั้งแต่เปิดบ้านสี่เสาฯ พล.อ.ประวิตร ยังคงยิ้มแย้มเมื่อพูดคุยกับ นายกฯ และ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.ในเรื่องภารกิจต่างๆ เมื่อมาถึงวันทำบุญ ที่ ทำเนียบฯ ทั้ง พล.อ.ประวิตร – นายกฯ ก็เดินพูดคุยและจับมือกันหลายครั้งด้วย
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่มีแต่กระแสข่าวลือต่างๆ ก็มีการโยงกรณี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ มายัง คสช. ด้วย
ทำให้ล่าสุด พล.ท.คงชีพ ได้ออกมาเปิดเผยถึง ‘กลุ่มบุคคล’ ที่ให้ข้อมูลเท็จต่างๆ ทำให้เกิดความเสียหาย พร้อมเตือนระวังเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ทั้งผู้ผลิตและผู้แชร์ข้อมูลเหล่านี้ เพื่อสยบข่าวลือและกระแสต่างๆให้ลดลง
“ได้ปรากฎความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคล ที่เผยแพร่และส่งต่อภาพและข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยพยายามบิดเบือน เชื่อมโยงกล่าวหาให้ร้าย พาดพิง ไปยังบุคคลต่างๆให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง อีกทั้งยังปล่อยข้อมูลเท็จ ยั่วยุ ปลุกปั่นให้สังคมแตกแยก ตามที่มีปรากฎในสื่อโซเชียลมีเดียอย่างต่อเนื่อง” พล.ท.คงชีพ เปิดเผย
จากการเป็น ‘ข้าราชการตำรวจ’ มาสู่การเป็น ‘ข้าราชการพลเรือน’ ก็ทำให้กระแสต่างๆลดลง
จากนี้ไปเป็น ‘บทพิสูจน์’ ของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ในเส้นทางเดินใหม่นี้ และต้องติดตามว่า ‘หน้าที่-บทบาท’ ของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ นับจากนี้จะเป็นอย่างไร ทั้งในระยะก่อน คสช. พ้นวาระ และหลังการมี ‘รัฐบาลใหม่’ ในอนาคตด้วย
หนทางนี้ อีกยาวไกล !!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
