ไม่พบผลการค้นหา
‘ลูบโฮลดิ้ง’ บริษัทสัญชาติมาเลเซีย เจ้าของแบรนด์ชานมไข่มุก ‘ทีไลฟ์’ วางแผนเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก และอาจสร้างมูลค่าได้มากถึง 72 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

นับเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งชี้ว่า การกลับมาโด่งดังอีกระลอกของชานมไข่มุกดูเหมือนจะยังไม่จบสิ้นลงง่ายๆ เมื่อลูบโฮลดิ้ง (Loob Holding) ว่าจ้างที่ปรึกษามาเตรียมการเสนอขายหุ้นต่อประชาชน (IPO) สำหรับชานมไข่มุกแบรนด์ทีไลฟ์ (Tealive) ซึ่งที่ปรึกษาผู้ไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนกล่าวกับบลูมเบิร์กว่า ลูบโฮลดิ้งตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าของบริษัทให้ได้มากถึง 240 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อเป็นการเตรียมตัวสำหรับการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในปีหน้า

ไบรอัน ลู (Bryan Loo) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของลูบโฮลดิ้ง ยืนยันความเห็นของแหล่งข่าวคนดังกล่าวว่า บริษัทวางแผนจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2020 

“เราจ้างที่ปรึกษามาเพื่อการนี้ อย่างไรก็ตาม เรายังไม่สามารถระบุมูลค่าที่ต้องการ หรือสัดส่วนของไอพีโอได้ ประเด็นอยู่ระหว่างการดำเนินงานขั้นสุดท้ายสำหรับบรรดาที่ปรึกษาของเรา” 

แม้ชานมไข่มุกของทีไลฟ์จะขายดีเป็นลำดับต้นๆ ของประเทศ แต่เมื่อเปิดขายหุ้นไอพีโอขึ้นมาจริงๆ อาจจะระดมทุนไม่ได้อย่างที่คาดหวัง เพราะในการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนครั้งแรกในปีนี้ของประเทศมาเลเซีย มีมูลค่าเพียง 9.4 ล้านเหรียญ ถือว่าต่ำลงอย่างมากหากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาซึ่งมีตัวเลขอยู่ที่ 47.8 ล้านเหรียญ 

แม้สถานการณ์ของไอพีโอมีท่าทีว่าจะกระเตื้องขึ้นจากการคาดการณ์ของบลูมเบิร์กเมื่อ เหลียง ฮัพ อินเตอร์เนชั่นแนล (Leong Hup International) ต้องการทำไอพีโอที่มีมูลค่าสูงถึง 250 ล้านเหรียญ และการเคลื่อนไหวของผู้ถือหุ้นบางราย

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวคนดังกล่าวชี้แจงว่า การเสนอขายหุ้นต่อประชาชนของลูบโฮลดิ้งยังอยู่ในขั้นเริ่มต้นเท่านั้น และอาจจะไม่เกิดข้อตกลงขึ้นมาเลยก็ได้ 


ทีไลฟ์ วางแผนขยาย 1,000 สาขาทั่วโลก 

ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ลูบโฮลดิ้งได้ออกมาประกาศว่า จะเปิดสาขาใหม่ทั่วโลกเป็นจำนวนมากถึง 1,000 สาขา โดยปัจจุบันทีไลฟ์ เปิดให้บริการทั่วประเทศมาเลเซียเป็นจำนวนมากกว่า 200 ร้าน ยังไม่รวม 7 ร้านในเวียดนาม 2 ร้านในจีน และอีก 1 ร้านในออสเตรเลีย โดยมีลูกค้าแวะเวียนมาใช้บริการมากถึง 2 ล้านคนต่อเดือน 

ทั้งนี้ พวกเขาวางแผนจะทำการเปิดสาขาใหม่จำนวน 1,000 สาขา ใน 15 ประเทศทั่วโลก ให้เสร็จสิ้นก่อนสิ้นปี 2020 โดยครึ่งหนึ่งของจะเปิดทำการในประเทศจีน นอกเหนือจากดั้นยังตั้งเป้าที่จะเปิดอีก 150 สาขา ที่ประเทศอินเดียในปี 2024 อีกด้วย 

ซีอีโอของลูบโฮลดิ้งบอกว่า สาขาที่เปิดใหม่จะเต็มไปด้วยความยืดหยุ่น โดยมีร้านขนาดเล็กเพื่อเน้นบริการแบบซื้อกลับด้วยที่มีขนาด 6 ตร.ม. ไปจนถึงร้านสำหรับชวนเพื่อนมานั่งหย่อนใจ หรือพกแล็ปท็อปมาทำงานด้วยขนาดที่กว้างถึง 400 ตร.ม. ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อเป็นการเอาใจผู้บริโภค ทีไลฟ์จะปรับรสชาติให้เหมาะสมกับรสนิยมของผู้คนในแต่ละพื้นที่ รวมถึงเพิ่มเมนูใหม่ๆ เข้ามาอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น สมูทตี้รสทุเรียนที่ถูกใจชาวจีนเป็นพิเศษ 

ที่มา :

On Being
198Article
0Video
0Blog