รวมทั้งมี ‘คลิปเสียง’ อ่านรายชื่อโผทหารในตำแหน่ง 5 เสือ ของแต่ละเหล่าทัพเผยแพร่ออกมาออกมา โดยอยู่ระหว่างการหาสาเหตุ
โดยมีการมองว่า โผทหารอาจถูกวางให้ออกหลังวันที่ 19-20 ก.ย. 2563 เพื่อให้ผ่านช่วงการชุมนุมใหญ่ไปก่อน เพราะโผทหารย่อมมีผลในแง่ ‘การบังคับบัญชา’ แม้ว่าจะมีผลจริง 1ต.ค. แต่ในแง่ความรู้สึกและการบังคับบัญชา ย่อมสิ้นสุดลงเมื่อโผทหารได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษา คืน 18ก.ย.ที่ผ่านมา โดยเป็นคืนก่อนการชุมนุม ทำให้ถูกตีความไปต่างๆ เพราะถือเป็นการ ‘ผลัดใบ’ ผบ.เหล่าทัพ 4 คน ในคราวเดียวกัน
เริ่มจาก ทบ. ที่ชื่อ ‘บิ๊กบี้’ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. คนใหม่ (ตท.22-จปร.34) เกษียณฯปี 2566 โดย ‘บิ๊กบี้’ เป็นนายทหารที่โตมาจาก ร.31 รอ. หรือหน่วยหมวกแดง ทบ. RDF ของ ทภ.1 จากนั้นขึ้นเป็น ผบ.พล.1 รอ. ถือเป็นนายทหารสายวงศ์เทวัญ ซึ่ง พล.อ.ณรงค์พันธ์ ไม่ได้เป็นสายตรงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เท่ากับ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.
อีกทั้ง พล.อ.ณรงค์พันธ์ ยังเป็น รอง ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 และ นายทหารพิเศษ ประจำกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์
ในส่วนกองทัพภาคที่ 1 ‘บิ๊กต่อ’พล.ท.เจริญชัย หินเธาว์ แม่ทัพน้อยที่ 1 และ รอง ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 ขึ้นเป็น แม่ทัพภาคที่ 1 (ตท.23-จปร.34) โดย พล.ท.เจริญชัย เติบโตมาจาก ร.21 รอ. เป็นรุ่นน้องสายทหารเสือฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ และ เคยเป็นอดีต ผบ.พล.ร.2 รอ. มาด้วย โดย พล.ท.เจริญชัย เกษียณฯปี2567 สามารถขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ต่อจาก พล.อ.ณรงค์พันธ์ ได้พอดี
อีกที่ฮือฮา คือ ‘บิ๊กอ๊อบ’พล.ต.ทรงวิทย์ หนุนภักดี รอง มทภ.1 และ รอง ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 (ตท.24) ที่ขึ้นเป็น รองเสธ.ทบ. โยกออกจาก บก.ทภ.1 เข้า บก.ทบ. โดย พล.ต.ทรงวิทย์ จบจาก ร.ร.นายร้อย Virginia Military Institute หรือ VMI สหรัฐฯ ไม่ได้จบจาก ร.ร.นายร้อย จปร. เป็น อดีต ผบ.พล.1 รอ. เติบโตมาจาก ร.11 รอ. เป็น บุตรชาย ‘บิ๊กตุ๋ย’พล.อ.อิสระพงศ์ หนุนภักดี อดีต ผบ.ทบ. โดย พล.ต.ทรงวิทย์ เกษียณฯ ปี2568 ที่อาจ ‘ข้ามห้วย’ ไปโตที่ บก.กองทัพไทย เพื่อขึ้นเป็น ‘ผบ.ทหารสูงสุด’ ในอนาคต เท่ากับว่า ‘ทหารคอแดง’ กำลังเข้ายึด บก.กองทัพไทย หรือไม่
ในส่วนกองบัญชาการกองทัพไทย ‘บิ๊กแก้ว’พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ เสธ.ทหาร และรอง ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 ขึ้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุด (ตท.21-จปร.32) เกษียณฯปี2566 เติบโตจากสายทหารม้า พล.ร.2 รอ. เคยเป็น เจ้ากรมยุทธการ ทบ. โดยมีส่วนเขียนแผน “จักรพงษ์ภูวนาถ” ในศึกเขาพระวิหาร ปี 2554
ทั้งนี้ พล.อ.เฉลิมพล เคยเป็น รองแม่ทัพภาคที่ 1 ก่อนถูกโยกเข้า บก.ทบ. มาเป็น รองเสธ.ทบ. ก่อนขึ้นเป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทบ. ติดยศพลเอก แล้วข้ามห้วยมาเป็น เสธ.ทหาร ก่อนขึ้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุด จึงต้องจับตาว่า พล.อ.ทรงวิทย์ จะเดินรอยตาม พล.อ.เฉลิมพล หรือไม่
มากันที่กองทัพอากาศ มาแบบเหนือเมฆ สำหรับ ‘บิ๊กแอร์’พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ’ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทอ. ขึ้นเป็น ผบ.ทอ. (ตท.21 - นายเรืออากาศ 28) เกษียณฯปี2564 โดยไม่ได้มาจากตำแหน่ง 5 เสือ ทอ.
แต่ไม่ใช่ครั้งแรก โดยในอดีต เมื่อปี2542-2543 พล.อ.อ.สนั่น ทั่วทิพย์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทอ. ได้ขึ้นเป็น ผบ.ทอ. มาแล้ว เพราะในขณะนั้นมีความขัดแย้งระหว่างแคนดิเดตกันเอง ระหว่าง พล.อ.อ.มหินทรา เทียมทัศน์ กับ พล.อ.อ.ธีรศิลป์ คัมภีรญาณนนท์ และ พล.อ.อ.ประพัฒน์ วีณะคุปต์ ที่สุดท้ายชื่อหลุดไปทั้งหมด ทำให้ชื่อ พล.อ.อ.สนั่น ถูกเสนอขึ้นมา
สำหรับ พล.อ.อ.แอร์บูล เป็นอดีตนักบินลำเลียงซี 130 , อดีตผู้บัญชาการฝูงบิน 601 อดีตผู้การกองบิน 6 ดอนเมือง เคยเป็นผู้ช่วยทูตทหารอากาศ ประจำประเทศสิงคโปร์ , อดีตปลัดบัญชีทหารอากาศ
นอกจากนี้หากมองในตำแหน่ง 5 เสือ ทอ. ชุดใหม่ จะพบแคนดิเดต ผบ.ทอ. ที่ถูกวางตัวไว้ คือ ‘บิ๊กหนึ่ง’พล.อ.ท.ชานนท์ มุ่งธัญญา รองเสธ.ทอ. (ตท.23-นายเรืออากาศ 30) ที่ขึ้นเป็น เสธ.ทอ.
โดย พล.อ.ท.ชานนท์ ถือว่ามาแรงอีกคน โดยขึ้นเป็น เจ้ากรมยุทธการ ทอ. เมื่อ ต.ค.62 ผ่านมา 6 เดือน ขึ้นเป็น รอง เสธ.ทอ. เมื่อโผกลางปี เม.ย.63 แล้วขึ้น เสธ.ทอ. โผปลายปี63
สำหรับแคนดิเดต ผบ.ทอ. คนอื่นๆ ก็ถูกโยกออกนอก ทอ. คือ ‘บิ๊กจ้อ’พล.อ.อ.ธรินทร์ ปุณศรี ผู้ช่วย ผบ.ทอ. ข้ามไปเป็น รองปลัดกลาโหม ‘บิ๊กต่วย’พล.อ.อ.สุทธิพันธุ์ ต่ายทอง เสธ.ทอ. ข้ามไปเป็น รองผบ.ทหารสูงสุด ส่วน ‘บิ๊กตั้ว ‘พล.อ.อ.สฤษดิ์พงศ์ วัฒนวรางกูร หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสธ.ประจำผู้บังคับบัญชา ยังคงอยู่ใน ทอ. ขึ้นเป็น ผู้บัญชาการกรมควบคุมการปฎิบัติทางอากาศ
ในส่วนกองทัพเรือ ‘บิ๊กอุ้ย’ พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้ช่วย ผบ.ทร. ขึ้นเป็น ผบ.ทร. เกษียณฯ ปี 2564 พร้อมโยกคู่แคนดิเดต ‘บิ๊กช่อ’พล.ร.อ.ช่อฉัตร กระเทศ รองผบ.ทร. ที่ออกนอก ทร. ไปเป็น รองผบ.ทหารสูงสุด เกษียณฯปี2564
สำหรับใน 5 เสือ ทร. มีแคนดิเดต ผบ.ทร. คนต่อไป 3 คน คือ พล.ร.ท.ทรงวุฒิ บุญอินทร์ เจ้ากรมกำลังพล ทร. ขึ้นเป็น ผู้ช่วย ผบ.ทร. (ตท.22) เกษียณฯปี2565 , พล.ร.ท.ธีรกุล กาญจนะ ปลัดบัญชีทหารเรือ ขึ้นเป็น เสธ.ทร. (ตท.21) เกษียณฯปี2566 และ พล.ร.ท.สุทธินันท์ สมานรักษ์ ผบ.ทัพเรือภาคที่ 1 ขึ้นเป็น ผบ.กองเรือยุทธการ (ตท.22) เกษียณฯปี 2566
ท่ามกลางการเกิด ‘คลื่นแรง’ ใน ทร. อยู่ตลอด ในการ ‘ปล่อยข่าว’ ต่างๆออกมา ทั้งที่เป็นข่าวและไม่เป็นข่าวตาม ในส่วนของ ทอ. แน่นอนภารกิจใหญ่ที่ พล.อ.อ.แอร์บูล ต้องแบกรับ แบบที่ไม่ได้ตั้งตัว จึงต้องปรับตัวและประสานรอบทิศในการทำงานอย่างมาก เป็นอีก ‘บทพิสูจน์ตัวเอง’ เพราะมาแบบ ‘เหนือความคาดหมาย’ ของคนใน ทอ. รวมทั้งอนาคตของ บก.กองทัพไทย ที่ถูกจับตาว่า ‘ทหารคอแดง’ จะประชิดพื้นที่ยาวหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ได้ระบุในที่ประชุมหน่วยขึ้นตรง ทบ. กับผู้บังคับกองพันและผู้การกรม โดยยกคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ที่สื่อสารถึงเหล่าทัพในการแต่งตั้งโยกย้าย ที่ให้ความเป็นธรรมและทั่วถึง
“กองทัพบกต้องเป็นหนึ่งเดียว เป็นเสาหลักในการปกป้องอธิปไตยของชาติ ทบ. จะมีการแตกแยกไม่ได้ การปรับย้ายทุกปี ย่อมมีคนสมหวังไม่สมหวัง ในฐานะเป็น รมว.กลาโหม ในการปรับย้ายนายทหารระดับชั้นนายพล ผบ.ทบ. ได้หารือส่วนตัวกับ รมว.กลาโหม ให้ท่านได้ตัดสินใจพิจารณาในตำแหน่งต่าง ๆ ให้เหมาะสม โดยพิจารณาจากขีดความสามารถ มากกว่าการพิจารณาจากอาวุโสรุ่น ทั้งนี้ขอให้เชื่อมั่นว่าทุกคนทุกหน่วย จะต้องมีโอกาสเจริญก้าวหน้าที่ทัดเทียม สลับปรับเปลี่ยนหมุนเวียนให้มีการระบายอย่างเหมาะสม” พล.อ.ประยุทธ์ สื่อสารผ่าน พล.อ.อภิรัชต์
ทั้งหมดสะท้อนภาพ พล.อ.ประยุทธ์ ในการคุมแถวกองทัพ ในฐานะ ‘กองหนุนสำคัญ’ รวมทั้งเห็นถึงการ ‘วางคน’ เพื่อไม่ให้เกิดสภาวะ ‘ขาลอย’ ท่ามกลางมรสุมทางการเมืองที่รุมเร้ารัฐบาล
ในการ ‘จัดดุลอำนาจ’ ระหว่างกองทัพกับรัฐบาล รวมทั้งสร้างความเป็นปึกแผ่น โดยการลดโทนการ ‘แบ่งขั้ว-แบ่งสาย’ รวมทั้งสร้าง ‘ความเชื่อมั่น’ ว่าทุกคนมีโอกาสเติบโตอย่างเท่าเทียม
ทหารจัดแถวกันเอง !!!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง