หลังจากกิจกรรม #ธรรมศาสตร์จะไม่ทน ที่ลานพญานาค มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จบลงช่วงกลางดึกวันที่ 10 ส.ค. 2563 'ผศ.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล' รองอธิการบดีฝ่ายความยั่งยืนและบริหารศูนย์รังสิต ได้เผยแพร่คำชี้แจงเรื่องการชุมนุมที่ มธ. ศูนย์รังสิต ผ่านทางเฟซบุ๊ก Prinya Thaewanarumitkul เมื่อเวลาประมาณ 01:00 น. วันที่ 11 ส.ค. โดยกล่าวพาดพิงถึง 'ผู้ปราศรัยบางคน' ที่ "แสดงออกในทางที่เลยขอบเขต"
ในฐานะที่เป็นรองอธิการบดี และเป็นผู้อนุญาตให้ใช้สถานที่ "ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้" พร้อมทั้ง "ขออภัย และขอน้อมรับผิดในสิ่งที่เกิดขึ้น"
เนื้อหาในคำชี้แจงทางเฟซบุ๊กดังกล่าว ระบุว่า นักศึกษาผู้จัดการชุมนุม ทำหนังสือลงวันที่ 31 ก.ค. 2563 ขออนุญาตใช้สถานที่ โดยแจ้งว่า “เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยุบสภา และให้รัฐบาลหยุดคุกคามประชาชนทุกรูปแบบ” แต่ไม่ได้มีการแจ้งว่าจะมีการปราศรัยหรือแสดงออกในประเด็นเรื่องอื่น
จนกระทั่งวันที่ 7 ส.ค. 2563 ผศ.ปริญญาระบุว่า ได้เชิญผู้ขออนุญาตใช้สถานที่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรอำเภอคลองหลวงมาหารือกัน และกล่าวว่า "เจ้าหน้าที่ตำรวจยินดีที่จะอำนวยความสะดวกเรื่องมาตรการความปลอดภัย" แต่ขอให้แสดงออกเป็นไปในขอบเขตของกฎหมายและหลีกเลี่ยงประเด็นที่ละเอียดอ่อน และได้ข้อสรุปว่า "การชุมนุมจะอยู่ในขอบเขตของประเด็นทั้ง 3 ประเด็นที่ขอจัด" หากมีผู้ปราศรัยในประเด็นที่หมิ่นเหม่หรือผิดกฎหมาย "คนพูดก็ต้องรับผิดชอบ"
ผศ.ปริญญาระบุด้วยว่า ข้อสรุประหว่างผู้ขออนุญาตใช้สถานที่กับ จนท.ตำรวจ ระบุว่า "ถ้าหากมีการกระทำที่ไม่เหมาะสมเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นการพูดหรือการยกป้ายข้อความหรือการกระทำใดก็แล้วแต่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้วิธีการพูดคุยเจรจา"
อย่างไรก็ตาม ผศ.ปริญญาระบุว่า ได้ไปสังเกตการณ์การชุมนุม ช่วงเวลาประมาณ 19:00 - 20:00 น. วันที่ 10 ส.ค. พบว่าการชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่หลังจากนั้นจึงได้ทราบว่า "มีผู้ปราศรัยบางคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นผู้ที่ไม่ได้เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์" ปราศรัยในทางที่เลยขอบเขตไป
ผศ.ปริญญาสรุปว่า "แม้ว่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จะให้เสรีภาพในการแสดงออก แต่การแสดงออกควรต้องอยู่ในขอบเขตของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องพึงระวังในเรื่องละเอียดอ่อนและเรื่องที่อาจจะนำมาซึ่งความแตกแยกของผู้คนในสังคม"
"แม้ว่าเนื้อหาหลักของการชุมนุมจะเป็นไปตามที่มีการขอจัดชุมนุม แต่เมื่อปรากฎเนื้อหาบางส่วนที่เลยขอบเขตไป ผมในฐานะรองอธิการบดีผู้อนุญาตผมก็ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้ ในเบื้องต้นผมขออภัย และขอน้อมรับผิดในสิ่งที่เกิดขึ้น"
คำชี้แจงในเฟซบุ๊กของ ผศ.ปริญญา มีผู้กดแสดงความรู้สึกนับพันคนในเวลากว่า 1 ชม. และมีผู้นำไปเผยแพร่ต่อกว่า 300 คน ทั้งยังมีผู้ตั้งคำถามและแสดงความคิดเห็นต่อท้าย โดยมีบางรายมองว่า ผศ.ปริญญา ได้ 'ชี้ผิด' และทำให้เกิดการอนุมานได้ว่า มีการปราศรัยผิด ก.ม.
แต่ผู้แสดงความเห็นบางรายก็มองว่า ผศ.ปริญญา ขอโทษเรื่องเนื้อหาเกินเลยไปกว่าที่ได้ขออนุญาต ซึ่งอาจสรุปได้ว่า "วิธีการไม่ถูกต้อง" แต่ไม่ได้ต่อว่าในเนื้อหาหรือข้อมูล
ส่วน 'พริษฐ์ ชิวารักษ์' หรือ 'เพนกวิน' หนึ่งในนักศึกษาที่เคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย และถูกตั้งข้อหาจากการชุมนุมสาธารณะก่อนหน้านี้ ระบุท้ายคำชี้แจงในเฟซบุ๊กของ ผศ.ปริญญา ว่า ตนเองขอยืนยันในหลักสิทธิเสรีภาพ และพูดในสิ่งที่เป็นรากของปัญหาการเมืองไทย
ข้อความของพริษฐ์ย้ำด้วยว่า"อาจารย์ไม่ต้องขอโทษแทนผมหรอกครับ เพราะวันนี้เราไม่ได้ทำอะไรผิด และอาจารย์อย่ากล่าวหาว่าพวกผมทำอะไรผิด พูดความจริงไม่ใช่สิ่งผิด"
"อาจารย์ก็อดีตแกนนำนักศึกษา อาจารย์ก็น่าจะเข้าใจ อยากให้อาจารย์ยืนบนหลักการครับ"
#คำชี้แจงจากรองอธิการบดีฝ่ายความยั่งยืนและบริหารศูนย์รังสิต
เรื่องการชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
ตามที่ได้มีการจัดชุมนุมที่ลานพญานาค มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา และปรากฎว่าในช่วงท้ายของการชุมนุมมีผู้ปราศรัยบางคนแสดงออกในทางที่เลยขอบเขตไป จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากต่อมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นั้น
ในฐานะรองอธิการบดีฝ่ายความยั่งยืนและบริหารศูนย์รังสิต ที่รับผิดชอบเรื่องการอนุญาตให้ใช้สถานที่ ผมขอชี้แจงดังต่อไปนี้
1.นักศึกษาผู้จัดการชุมนุมได้ทำหนังสือลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 ขออนุญาตใช้สถานที่โดยแจ้งว่า “เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยุบสภา และให้รัฐบาลหยุดคุกคามประชาชนทุกรูปแบบ” ไม่ได้มีการแจ้งว่าจะมีการปราศรัยหรือแสดงออกในประเด็นเรื่องอื่นแต่อย่างใด
2.ผมได้รับหนังสือนี้ในวันที่ 5 สิงหาคม 2563 ผมจึงได้เชิญผู้ขออนุญาตใช้สถานที่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรอำเภอคลองหลวงมาหารือในวันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม 2563 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยินดีที่จะอำนวยความสะดวกเรื่องมาตรการความปลอดภัย โดยได้ขอให้แสดงออกเป็นไปในขอบเขตของกฎหมายและหลีกเลี่ยงประเด็นที่ละเอียดอ่อน ซึ่งก็ได้ข้อสรุปว่า การชุมนุมจะอยู่ในขอบเขตของประเด็นทั้ง 3 ประเด็นที่ขอจัด โดยหากว่ามีคนที่ปราศรัยในประเด็นที่หมิ่นเหม่หรือผิดกฎหมาย คนพูดก็ต้องรับผิดชอบ และถ้าหากมีการกระทำที่ไม่เหมาะสมเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นการพูดหรือการยกป้ายข้อความหรือการกระทำใดก็แล้วแต่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้วิธีการพูดคุยเจรจา เมื่อได้ข้อสรุปตามแนวทางนี้ผมจึงอนุญาตให้ใช้สถานที่
3.ในขณะที่มีการชุมนุม ช่วงเวลาประมาณ 19 นาฬิกาถึง 20 นาฬิกา ผมได้ไปสังเกตุการณ์และไปเยี่ยมเจ้าหน้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยอำนวยการเรื่องมาตรการความปลอดภัย ซึ่งการชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่หลังจากนั้นจึงได้ทราบว่ามีผู้ปราศัยบางคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นผู้ที่ไม่ได้เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีการปราศัยในทางที่เลยขอบเขตไปดังที่ปรากฏ
ผมขอเรียนว่า แม้ว่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จะให้เสรีภาพในการแสดงออก แต่การแสดงออกควรต้องอยู่ในขอบเขตของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องพึงระวังในเรื่องละเอียดอ่อนและเรื่องที่อาจจะนำมาซึ่งความแตกแยกของผู้คนในสังคม และแม้ว่าเนื้อหาหลักของการชุมนุมจะเป็นไปตามที่มีการขอจัดชุมนุม แต่เมื่อปรากฎเนื้อหาบางส่วนที่เลยขอบเขตไป ผมในฐานะรองอธิการบดีผู้อนุญาตผมก็ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้ ในเบื้องต้นผมขออภัย และขอน้อมรับผิดในสิ่งที่เกิดขึ้น
ปริญญา เทวานฤมิตรกุล
รองอธิการบดีฝ่ายความยั่งยืนและบริหารศูนย์รังสิต