ไม่พบผลการค้นหา
แกนนำพรรคไทยรักษาชาติลงพื้นที่ราษฎร์บูรณะ - บางคอแหลม ถกปัญหาบัตรคนจนกับประชาชน อาสาพลิกฟื้นเศรษฐกิจและปากท้อง ย้ำหากยังเป็นรัฐบาลชุดเดิม แก้ปัญหาไม่ได้

แกนนำพรรคไทยรักษาชาติ นำโดย ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค นายจาตุรนต์ ฉายแสง และนายพิชัย นริพทะพันธุ์ เดินทางมาที่มัสยิดอัตตักวา เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร เดินทางมารับฟังปัญหาของประชาชนภายในเขตทุ่งครุและเขตราษฎร์บูรณะ จากนั้นเดินทางมาพบกับนายพงษ์พิสุทธิ์ จินตโสภณ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขตบางคอแหลม และเดินพบปะประชาชนที่ถนนเจริญกรุง 85 เขตบางคอแหลม โดยมีการต้อนรับจากคนในพื้นที่ด้วยดอกกุหลาบสีแดง และแวะพูดคุยปัญหากับประชาชนตลอดเส้นทาง

ทษช.ลงพื้นที่

นายปรีชาพล กล่าวว่า ปัญหาหลักๆ 3 ข้อที่ประชาชนอยากให้แก้ไข คือปัญหาเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง ยกตัวอย่างเช่น พื้นที่ค้าขายที่อยู่ภายในพื้นที่และละแวกใกล้เคียง ทยอยปิดตัวลงไปอย่างต่อเนื่อง เพราะประชาชนไม่มีเงินในการจับจ่ายใช้สอย หรือแม้กระทั่งร้านธงฟ้าประชารัฐ กลับขายสินค้าบางชนิด ในราคาที่แพงกว่าท้องตลาด เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีปัญหายาเสพติดที่ระบาดมากขึ้นเรื่อยๆ และปัญหาบัตรคนจน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ใช้ได้เฉพาะร้านค้าประชารัฐซึ่งสินค้าราคาแพงกว่าท้องตลาด รวมทั้งยังเป็นการเอาภาษีประชาชนมาต่อยอดให้กับนายทุนรายใหญ่ผ่านร้านค้าประชารัฐดังกล่าวอีกด้วย

ทั้งนี้ นายปรีชาพล เห็นว่าการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจควรจะทำอย่างยั่งยืน ไม่ใช่นโยบายแบบ one-shot หรือไม่ใช่โยนเงินอย่างเดียวให้ประชาชน ซึ่ง ทษช. มีนโยบายที่ดีและยั่งยืนเสนอเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ และยืนยันว่าตราบใดที่ยังเป็นรัฐบาลเดิม แม้จะเลือกตั้งใหม่ แต่ได้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีเหมือนเดิม จะไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้

ทั้งนี้ประชาชนที่เดินทางมา ต้องการให้พรรคไทยรักษาชาติ สืบต่อนโยบายของพรรคไทยรักไทย เช่น โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค และกองทุนหมู่บ้าน เพราะคิดว่า โครงการเหล่านี้เป็นประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง

ทษช.ลงพื้นที่


ส่วนกรณีประกาศ กกต. ห้ามนำรูปภาพและชื่อบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้สมัคร, หัวหน้าพรรค, และว่าที่นายกรัฐมนตรีขึ้นป้ายหาเสียง นายปรีชาพลมองว่า กกต. ไม่ควรล็อกมาจนเกินไป เพราะเป็นการปิดกั้น ควรให้เสรีภาพกับผู้สมัครโดยกำหนดกติกาที่ชัดเจน แม้ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเสนอชื่อนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรค เป็นเรื่องของพรรค ปชป. นอกจากนี้ยังยอมรับว่ากระแสข่าวของนางเยาวภา ชินวัตร ที่เดินทางออกนอกประเทศ คดีจำนำข่าวล็อต 2 ยอมรับว่ากระทบกับพรรค แต่มองว่าเป็นคดีการเมืองอยู่แล้ว แต่ผู้มีอำนาจควรตักเตือนอย่าให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดหยิบยกประเด็นนี้มาโจมตี และเอาความดีเข้าตัวความชั่วให้คนอื่น เชื่อว่าประชาชนที่ติดตามทางการเมืองจะรู้ทัน อยากให้บรรยากาศการเลือกตั้งมีเสรีและเป็นธรรม ให้พรรคต่างๆ นำเสนอนโยบาย

ด้านนายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง กล่าวถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ควรจะวางตัวในสถานะรัฐบาลรักษาการ ไม่อนุมัติงบประมาณเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหัวหน้า คสช. ที่เปรียบเหมือนกรรมการ และมีอำนาจ ม.44 อยู่เหนือรัฐธรรมนูญ แต่กลับมาเล่นเอง เสนอตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะนำมาสู่การแทรกแซงการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นธรรม

ส่วนการจับมือทางการเมือง ทษช. เปิดกว้างพร้อมรับพรรคการเมืองที่มีแนวคิดกลางๆ แต่ว่าจะร่วมมือกับพรรคการเมืองใด คงจะพูดหลังเลือกตั้ง เพราะยังเร็วเกินไป เช่นเดียวกับการแก้รัฐธรรมนูญ ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากเพราะต้องได้รับความเห็นชอบจะ ส.ว. และจะแก้เมื่อประชาชนมีความพร้อม ทั้งนี้ยังโต้แย้งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ตำหนิว่าผู้ที่ต้องการจะแก้รัฐธรรมนูญไม่เคารพเสียงของประชาชน 16.8 ล้านคนที่ลงประชามติ ตนเห็นว่าการแก้รัฐธรรมนูญมีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว และต้องรอให้ประชาชนพร้อมใจกันเพราะหากเสียงไม่พอก็ไม่สามารถแก้รัฐธรรมนูญได้ อย่างไรก็ตามหากในอนาคตประชาชนเห็นว่ารัฐธรรมนูญดังกล่าวมีปัญหาจะต้องมีการแก้ไขอย่างแน่นอน