ไม่พบผลการค้นหา
'เลขาฯ กกต.' ยันระเบียบหาเสียง 180 วัน ให้ทุกฝ่ายแข่งขันอย่างเป็นธรรม แจงตัวแทนพรรคไปหมดแล้ว แนะ รมต.-ส.ส. ทำตามหน้าที่ตัวเอง แล้วกฎหมายจะคุ้มครอง

วันที่ 25 ก.ย. 2565 ที่โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ แสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่วถึงการประกาศใช้ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) (ฉบับที่ 3)

แสวง กล่าวว่า ไม่น่ามีข้อกังวลอะไรทั้งทางฝั่ง กกต. และพรรคการเมือง ซึ่งประเด็นดังกล่าวสรุปใจความสำคัญได้ ดังนี้ 

1. กกต. ออกระเบียบฯ บนหลักการเพื่อประโยชน์แห่งความเที่ยงธรรมและเรียบร้อย ไม่ได้คำนึงว่าพรรคไหนจะได้อะไร ทุกคนอยู่บนพื้นฐานเดียวกัน 

2. ระเบียบวิธีหาเสียงใช้บังคับมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 แต่ต่างตรงที่เงื่อนเวลาจาก 60 วัน เป็น 180 วัน แก้ไขเพิ่มเติมเพียงกรณีปัจจุบันยังไม่มีเขตเลือกตั้ง เนื่องจากพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ และกรณีบังคับใช้กับผู้ที่ประสงค์สมัครรับเลือกตั้งด้วย 

3. การหาเสียง ให้ศึกษาจากระเบียบ กกต. ฉบับที่ 1-4 หากดูทั้ง 4 ฉบับ ท่านจะไม่มีคำถาม 

4. กกต. มีการประชุมชี้แจงตัวแทนพรรคและผู้อำนวยการในแต่ละจังหวัดแล้ว จึงต้องไปถามตัวแทนพรรคว่าทุกปัญหาที่คนสงสัยจะมีอยู่อีกหรือไม่ จะไม่พูดซ้ำ เพราะได้ชี้แจงไปหมดแล้ว 

แสวง ย้ำว่า กิจกรรมของพรรคการเมืองทุกอย่างต้องเดินไปตามกฎหมายพรรคการเมือง ซึ่งเมื่อเข้าระยะเวลา 180 วันที่ยาวนานขึ้นนั้น พรรคการเมืองต้องระมัดระวังขึ้น เพราะโครงการของพรรคบางอย่างต้องไปดำเนินการกับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โดยห้ามจัดเลี้ยง ให้ทรัพย์สิน สนับสนุนค่ายานพาหนะหรือที่พัก นอกเหนือจากนี้ อย่างอื่นพรรคก็ดำเนินการได้ตามปกติ 

เมื่อถามถึงกรณีการลงพื้นที่ของรัฐมนตรีที่อาจเอื้อประโยชน์ต่อพรรคร่วมรัฐบาล แสวง ตอบว่า กฎหมายมีพร้อมอยู่แล้ว ไม่ต้องไปแก้ไขอะไร ซึ่งข้อเท็จจริงก็ต้องดูเป็นเรื่อง ๆ ไป แต่หลักการคือ รัฐมนตรีและข้าราชการถ้ามีอำนาจหน้าที่ดูแลประชาชนก็ทำได้ โดยต้องระมัดระวังในการไปในตำแหน่งหน้าที่ 

เมื่อถามต่อไปถึงกรณีการลงพื้นที่ของ ส.ส. แสวง ตอบว่า ส.ส. มีอำนาจอะไรที่จะไปดูแลประชาชนแบบนั้น ตนจะไม่บอกว่าใครทำอะไรได้ แต่ขอให้ทำในสิ่งที่ตัวเองมีอำนาจหน้าที่ กฎหมายก็จะคุ้มครอง 

สำหรับเจตนารมณ์ของระเบียบ แสวง กล่าวว่า เป็นเรื่องของสภาฯ ที่ออกกฎหมายมาแล้ว กกต. ออกกฎเกณฑ์ตาม ซึ่งตัวหลักการของกฎหมายต้องการให้มีการแข่งขันระหว่างผู้สมัครและพรรคการเมืองอย่างเที่ยงธรรม อยู่ในกรอบเวลาและกติกาเดียวกัน