วันที่ 1 ก.พ. 2567 เวลา 13.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย เครือข่าย 'นิรโทษกรรมประชาชน' เดินทางเข้ายื่นหนังสือเชิญชวนพรรคเพื่อไทยร่วมสนับสนุนร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมประชาชน ที่กำลังริเริ่มรณรงค์ให้ประชาชนร่วมเข้าเสนอกฎหมายระหว่างวันที่ 1 - 14 ก.พ. นี้ 

อานนท์ ชวาลาวัณย์ ตัวแทนเครือข่าย กล่าวว่า ในช่วงเวลาของความขัดแย้งทางการเมือง นับตั้งแต่ปี 2549 มีประชาชนประมาณ 6 พันคนถูกดำเนินคดี อันเนื่องมาจากความขัดแย้งทางการเมือง หรือถูกดำเนินคดีจากมูลเหตุทางการเมือง และเวลานี้ยังมีนักโทษการเมืองอยู่ในเรือนจำโดยที่ไม่ได้รับสิทธิประกันตัวจำนนวน 26 ราย และกลุ่มที่คดีสิ้นสุดแล้วอีก 13 ราย 

อานนท์ ย้ำว่า พรรคเพื่อไทยเองเป็นพรรคการเมืองหนึ่งที่เป็นตัวแทนของประชาชน ทางเครือข่ายเลือกที่จะมาพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคแรก ไม่ใช่เพียงเพราะเห็นว่าเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่เป็นเพราะพรรคเพื่อไทย สมาชิกพรรค ส.ส. และผู้ที่เกี่ยวข้องกับพรรคล้วนเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการรัฐประหารทั้งสองในปี 2549 และปี 2557 

“ในตอนนี้พรรคเพื่อไทย สามารถรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลได้หลังจากการเลือกตั้ง 2566 ผู้นำทางการเมืองที่มาจากการรัฐประหารเองก็พ้นจากตำแหน่งไปแล้ว พวกเราหวังว่าโอกาศนี้จะเป็นนิมิตรหมายอันดี ที่จะร่วมกันพาประเทษศออกจากวังวนความขัดแย้งกว่า 20 ปีที่ผ่านมา จึงได้เสนอริเริ่มกฎหมายนิรโทษกรรมประชาชน โดยเป็นการทำงานเชิญชวนประชาชนมาร่วมลงชื่อ และคาดหวังว่าหลังจากครบกำหนดเวลาของการทำงานของภาคประชาชนแล้ว ร่างกฎหมายนี้จะได้รับการสนับสนุนจากพรรคเพื่อไทย และพรรคการเมืองอื่นๆ ในการรับหลักการเพื่อให้ร่างกฎหมายได้เข้าสู่กระบวนการนิติบัญญัติต่อไป” 

ประกายดาว พฤกษาเกษมสุข กล่าวด้วยว่า ทางเครือข่ายได้เริ่มต้นจัดกิจกรรมรณรงค์ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ และในวันที่ 14 ก.พ. นี้ จะมีการจัดกิจกรรม ‘ส่งรักให้ถึงสภา ถามหาความยุติธรรม เพื่อนิรโทษกรรมประชน’ ที่รัฐสภา ตั้งแต่ 16.00 - 20.00 น. จึงอยากฝากเชิญหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แพทองธาร ชินวัตร มาร่วมงานอย่างเป็นทางการ โดยทางเครือข่ายยินดีให้การต้อนรับ และหวังว่าจะได้รับการพิจารณาจากทางพรรค 

ด้าน พงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทยรับหนังสือเชิญ พร้อมกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเองก็เห็นว่าเรื่องของการนิรโทษกรรม เป็นประเด็นที่สำคัญ เวลานี้ทางพรรคได้ยื่นญัตติเพื่อเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการวิสามัญเพื่อศึกษาแนวทางนิรโทษกรรมคดีการเมือง เพื่อที่จะเปิดให้มีการรับฟังความคิดเห็นที่รอบด้าน เพราะในประเด็นนี้สังคมไทยยังมองเห็นต่างกันหลายเรื่อง 

พงศ์กวิน กล่าวต่อว่า ทางพรรคจึงเห็นว่าเรื่องนี้ควรมีการพูดคุยกันในทุกฝ่าย และเห็นว่ากฎหมายนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการปรองดอง ไม่ใช่การเริ่มต้นสร้างความขัดแย้งใหม่ขึ้นมา จึงอยากให้ทางเครือข่ายรอฟังผลการศึกษาที่จะออกมาจากคณะกรรมการวิสามัญ