เลือกตั้ง
จี้ กกต.สอบกรณีเกณฑ์ประชาชนรับ 'ประยุทธ์' ลงพื้นที่ เข้าข่ายประโยชน์แอบแฝงหรือไม่
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีการลงพื้นที่ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มีการเกณฑ์ประชาชนไปต้อนรับการลงพื้นที่ของพลเอกประยุทธ์ในหลายจังหวัด เข้าข่ายการใช้ประโยชน์ของส่วนราชการท้องถิ่นแอบแฝงการหาเสียงทางการเมืองในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งหรือไม่
กรณีดังกล่าวอาจเข้าข่ายมีความผิดมาตรา 78 พ.ร.บ.ว่าด้วยการหาเสียงหรือไม่ จึงขอให้ กกต. ตรวจสอบ เนื่องจากเห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่สมควร ซึ่งควรปล่อยให้การหาเสียงเป็นหน้าที่ของพรรคการเมือง แม้ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะอยู่ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐก็ตาม
เช่นเดียวกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ซึ่งเรียกร้องให้ กกต. ติดตามตรวจสอบการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ โดยอ้างว่าปฏิบัติราชการและพบปะประชาชน แต่กลับปรากฏว่ามีการใช้ทรัพยากรของรัฐและมีคำสั่งราชการให้เกณฑ์ประชาชนมาต้อนรับ ซึ่งล่าสุด ในวันนี้ (18 มี.ค. 2562) พล.อ.ประยุทธ์ ได้ลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช โดย กกต.ควรพิจารณาว่าเป็นการลงพื้นที่เพื่อปฏิบัติราชการจริงหรือไม่ หรือเป็นการทำเพื่อประโยชน์ของคะแนนเสียง
จากกรณีดังกล่าว นายอภิสิทธิ์ได้เรียกร้องให้ กกต. เร่งชี้แจงเพื่อสร้างความชัดเจนถึงปัญหาต่างๆ ท���่เกิดขึ้นในการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 17 มี.ค. ก่อนที่ข้อกังขาต่างๆที่เกิดขึ้น จะกระทบความเชื่อมั่นของประชาชน เนื่องจากการเลือกตั้งล่วงหน้าครั้งนี้ประชาชนมาใช้สิทธิเป็นจำนวนมาก ดังนั้น กกต.จึงควรรีบดำเนินการให้เกิดความกระจ่าง
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินทางไปเป็นประธานส่งมอบบ้านใหม่ และให้กำลังใจผู้ประสบภัยจากพายุโซนร้อนปาบึกที่ ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยรับฟังบรรยายสรุปการฟื้นฟูและก่อสร้างบ้านให้กับประชาชนผู้ประสบภัยจากพายุโซนร้อนปาบึก โดยมีการก่อสร้างบ้านให้ประชาชนใหม่ จำนวน 316 หลัง พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวทักทายชาวบ้าน ว่า “แล่งใต้ หรอยแรงๆ” และ ขอบคุณทุกภาคส่วน ที่ช่วยเหลือประชาชน วันนี้มาแสดงความยินดีที่ได้รับบ้านใหม่ ที่ถึงจะสร้างด้วยเวลาไม่นาน แต่ก็แข็งแรง ขออย่าเกลียดเจ้าหน้าที่เพราะถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่ ก็ไม่มีใครมาช่วยเหลือเมื่อเกิดภัยพิบัติ และวันหน้าต้องมีการเตรียมการ เมื่อมีการแจ้งเตือนจากภาครัฐ ไม่เช่นนั้นจะเกิดความสูญเสียจำนวนมาก
หลังจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้มีโอกาสไปไหว้พระธาตุฯ อธิษฐานขอให้ประชาชน คนนครศรีธรรมราช คนภาคใต้ คนทั้งประเทศ และบ้านเมือง เดินหน้าไปด้วยความปลอดภัย ปรองดอง สันติ และยั่งยืน พร้อมย้ำว่าทุกคนต้องอยู่ด้วยสังคมพหุวัฒนธรรม และยืนยันกำลังทำยุทธศาสตร์ 20ปี ให้กับเด็กๆ ซึ่งเป็นอนาคตของประเทศ และรัฐบาลทำให้กับทุกคน ทั้งคนที่รักและไม่ได้รัก "จากนี้จะต้องดูปัญหาการจัดสรรที่ดิน ป่าชายเลน ที่ต้องปลดล็อกให้ แต่ต้องหามาตรการที่เหมาะสม และไม่อยากใช้กฎหมายบังคับไปทุกเรื่อง" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
จี้สอบนโยบายพรรคการเมืองขายฝัน แจกเงิน แนะ กกต.สอบถามแหล่งงานจะมาจากไหน ?
วันเดียวกัน นายศรีสุวรรณยังเรียกร้องให้ กกต.ตรวจสอบกรณีพรรคการเมืองต่างๆ ที่กำหนดนโยบายในการใช้เงินเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่มีลักษณะการใช้เงินและการแจกเงิน เข้าข่ายเป็นนโยบายประชานิยม เช่น การขึ้นค่าแรง 400-425 บาท / ปริญญาตรีได้ค่าแรง 18,000 บาทถึง 20,000 บาท / เบี้ยคนชรา 18,000 บาท โดยได้นำหนังสือหลักฐานการโฆษณาหาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ แนบไปด้วย ทั้งพรรคเพื่อไทย / พรรคพลังประชารัฐ / พรรคประชาธิปัตย์ / พรรคภูมิใจไทย / พรรคชาติพัฒนา / พรรคชาติไทยพัฒนา / พรรคอนาคตใหม่ / พรรคประชาชาติ และพรรครวมพลังประชาชาติไทย
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า พรรคการเมืองที่หาเสียง จะต้องดำเนินการโฆษณาว่าได้นำเงินมาจากแหล่งใด เมื่อดำเนินการนโยบายนั้นไปแล้ว ต้องมีการประเมินว่ามีผลอย่างไร เพื่อนำไปสู่การตัดสินใจของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง แต่ขณะนี้ทุกพรรคการเมืองไม่ได้นำเสนอในเรื่องของแหล่งที่มาของเงินที่ใช้ในการทำนโยบาย จึงเกรงว่าหาก กกต. ไม่ดำเนินการตรวจสอบ จะสุ่มเสี่ยงให้การเลือกตั้งนี้เป็นไปโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรม อาจนำไปสู่การเลือกตั้งที่เป็นโมฆะได้
นายศรีสุวรรณ เรียกร้องให้ กกต. ดำเนินการตรวจสอบให้แล้วเสร็จก่อนการเลือกตั้ง หากพรรคการเมืองไม่ได้ดำเนินการแจ้งที่มาของเงิน ไม่มีการประเมินผลดีผลเสียที่ตามมา ถือว่ามีโทษปรับไม่เกิน 500,000 บาท รวมถึงปรับรายวัน 10,000 บาทต่อวัน และหาก กกต. ไม่ดำเนินการตรวจสอบถือว่า กกต. ละเว้นต่อการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
