วันที่ 5 ม.ค. ที่อาคารรัฐสภา ชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรล่ม ระหว่างวาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ ซึ่งเป็นเหตุให้กฎหมายฉบับอื่นที่รออยู่ เช่น พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม และ พ.ร.บ.คู่ชีวิต ไม่สามารถเลื่อนขึ้นมาพิจารณาได้ ก็อาจให้ประธานสภาฯ เปิดการประชุมเป็นนัดพิเศษ
ชินวรณ์ ระบุว่า ในเมื่อพรรคภูมิใจไทยเป็นผู้เสนอร่างนี้มา และผ่านชั้นกรรมาธิการแล้ว ก็อยากให้ดำเนินไปตามขั้นตอนของกรรมาธิการ คือพิจารณาเรียงลำดับมาตรา ได้เท่าไหร่เอาเท่านั้น แต่ขอความร่วมมือกรรมาธิการและสมาชิกที่ได้สงวนความเห็นและแปรญัตติ ได้แสดงความเห็น ในมาตราที่มีความสำคัญเท่านั้น เพื่อประหยัดเวลาในการพิจารณา
ส่วนความห่วงใยว่ากฎหมายฉบับนี้อาจจะติดค้างจนไม่ทันในสมัยประชุมนี้นั้น ชินวรณ์ กล่าวว่าเป็นเรื่องที่พรรคภูมิใจไทยในฐานะผู้เสนอต้องยอมรับและเข้าใจในขั้นตอนกระบวนการของการพิจารณากฎหมาย ว่าต้องมีการอภิปรายและลงมติ ซึ่งตนก็เชื่อว่าพรรคภูมิใจไทยได้เข้าใจแล้ว
อย่างไรก็ตาม การนัดประชุมเป็นวาระพิเศษเพิ่มเติม ยังไม่สามารถตกลงเวลากันได้ ต้องพิจารณาว่ามีกฎหมายฉบับใดบ้างที่ 2 ฝ่ายเห็นตรงกัน เช่นร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ที่รัฐบาลเสนอเข้ามา หรือร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ แต่ยังไม่ได้เห็นพ้องตรงกันจึงต้องดำเนินการไปตามนี้ก่อน
สำหรับการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในวันที่ 10-11 ม.ค. นั้น ที่ประชุมวิป 3 ฝ่ายเห็นตรงกันว่า เนื่องจากมี พ.ร.บ.อยู่ 2 ฉบับ การศึกษาแห่งชาติ และ พ.ร.บ.ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน รวมถึง ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเป็นผู้เสนอ แต่สำหรับ พ.ร.บ.การศึกษาฯ นั้น เมื่อตรวจสอบจากทุกฝ่ายแล้วเห็นว่า ควรจะให้สิทธิผู้สงวนความเห็นและผู้แปรญัตติได้มีโอกาสพูดเรียงตามลำดับมาตรา
ดังนั้น 10-11 ม.ค. นี้ ที่ประชุมจะพิจารณา พ.ร.บ.การศึกษาฯ เป็นหลัก หากพิจารณาเสร็จก็ตามด้วย พ.ร.บ.ฉบับต่อมา หากยังไม่เสร็จก็ให้ประธานรัฐสภาใช้อำนาจกำหนดวันประชุมเพิมเติม เพราะทั้ง 3 ร่าง ล้วนมีความสำคัญ ไม่ควรค้างไว้ในสมัยประชุมนี้
ในกรณีพรรคร่วมฝ่ายค้านเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายโดยไม่มีการลงมติ ตามมาตรา 152 นั้น ชินวรณ์ เผยว่า ฝ่ายรัฐบาลยังไม่ได้กำหนดวันอภิปรายในขณะนี้ เนื่องจากหนังสือของประธานสภาเพิ่งไปถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวาน รอให้ ครม. กำหนดวันมา ส่วนของวิปรัฐบาล คิดว่าวันที่เหมาะคือช่วงต้นเดือน ก.พ. ภายในระยะเวลา 2 วัน
"ฝ่ายรัฐบาลจะยืนยันอีกครั้งหนึ่งกับประชาชนและฝ่ายค้าน ตลอดจนถึงนักวิชาการที่ออกมาพูดว่า การเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อให้ข้อเสนอแนะนั้น อาจนำไปสู่การยุบสภา ซึ่งผมยืนยันว่า ฝ่ายรัฐบาลได้พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นไปไม่ได้ ฝ่ายรัฐบาลมีความพร้อม นายกรัฐมนตรีก็มีความพร้อมที่จะชี้แจงข้อซักถามของเพื่อนสมาชิก"
ชินวรณ์ เรียกร้องว่า การอธิบายทั่วไปตามมาตรา 152 คราวนี้ เป็นการอภิปรายครั้งสุดท้ายของฝ่ายค้านในการตรวจสอบรัฐบาล อยากจะให้ฝ่ายค้านได้เตรียมข้อมูลอย่างตรงไปตรงมาในการอภิปรายและซักถามรัฐบาล อย่านำเอาวาทกรรมหรือเรื่องส่วนตัวมาโจมตีกัน ขณะเดียวกันทางวิปรัฐบาลได้เสนอแนะ ครม. ไปแล้วว่า ขอให้รัฐมนตรีแต่ละท่านได้เตรียมผลงานตลอดจนเตรียมตัวในการตอบข้อซักถาม เพราะทางนี้ก็เหมือนเป็นการดีเบตกันในสภา ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจแล้วมีผลต่อการเลือกตั้งคราวต่อไป