นางอังคณา นีละไพจิตร อดีตคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน แสดงความคิดเห็นกรณีที่ตำรวจสันติบาลส่งหนังสือถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยเพื่อขอให้แจ้งจำนวนนักศึกษาที่นับถือศาสนาอิสลาม พร้อมทั้งให้ระบุนิกาย รวมถึงการตั้งชมรม กลุ่ม ของนักศึกษาที่นับถือศาสนาอิสลาม ประวัติของประธานฯ จำนวนสมาชิกและแนวทางการเคลื่อนไหว โดยนางอังคณาตั้งคำถามว่า ตำรวจสันติบาลมีความคิดอะไรจึงมีหนังสือลักษณะนี้ถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัย เรื่องนี้ถือเป็นการแทรกแซงสิทธิความเป็นส่วนตัว เป็นการเลือกปฏิบัติทางศาสนา เป็นอคติและสร้างความหวาดระแวงต่อนักศึกษาที่นับถือศาสนาอิสลามโดยตรง อีกทั้งยังเป็นการแทรกแซงสถาบันการศึกษาที่ควรต้องมีเสรีภาพทางวิชาการด้วย
โดยนางอังคณา กล่าวอีกว่า ที่จริงแล้วแต่ละมหาวิทยาลัยมีแนวทางในการคุ้มครองและให้คำแนะนำรวมถึงมีอาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อให้คำแนะนำในการจัดกิจกรรมของนักศึกษาอยู่แล้ว หน่วยงานความมั่นคงโดยเฉพาะสันติบาลควรเคารพการทำหน้าที่ของสถาบันการศึกษา และเสรีภาพทางวิชาการ ซึ่งเวลาที่นักศึกษาหรือชาวบ้านจัดกิจกรรม มักมีสันติบาลตามมาบันทึกภาพ หรือวิดีโออยู่โดยตลอด การทำหนังสือลักษณะนี้จึงถือเป็นการแทรกแซงสิทธิเสรีภาพ รวมถึงสิทธิในความเป็นส่วนตัวของบุคคลโดยตรง การจะอ้างเหตุผลเรื่องความมั่นคง น่าจะต้องมีข้อมูลที่เชื่อถือได้มากกว่านี้
ส่วนเรื่องเสรีภาพในการนับถือศาสนาได้รับการคุ้มครองทั้งจากรัฐธรรมนูญ และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง การที่บุคคลใดจะนับถือศาสนาใดหรือนิกายใด หรือเป็นคนไม่นับถือศาสนายอ่มเป็นสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล