ไม่พบผลการค้นหา
ในห้วงที่ ‘กลุ่มราษฎร’ พักการชุมนุมชั่วคราว โดยเตรียมกลับมาชุมนุมอีกครั้งต้นปีหน้า ทว่าในช่วงนี้แกนนำผู้ชุมนุมและผู้สนับสนุนหลายรายอยู่ระหว่าง ‘ถูกหมายเรียก’ จากตำรวจ โดยส่วนใหญ่เป็นคดี มาตรา 112 หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ประกาศใช้ “กฎหมายทุกฉบับ” พร้อมระบุว่า “มีการละเมิดสถาบันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ผมคนหนึ่งที่ยอมรับไม่ได้”

แม้จะไม่ระบุว่าเป็น มาตรา 112 หรือไม่ โดยได้ระบุเพียงว่าคนที่ดูอยู่เขารับไม่ได้และได้มีการไปร้องเรียน

ในขณะที่บรรดาแกนนำอยู่ระหว่างการสู้คดี ขบวนการเคลื่อนไหวก็มีความระส่ำอยู่ภายใน หลัง ‘กลุ่มปลดแอก’ ชูแนวคิด ‘คอมมิวนิสต์’ ผ่านสัญลักษณ์ ‘ค้อนเคียว’ ขึ้นมา ทำให้เกิดกระแสตีกลับเกิดการถกเถียงภายในขบวนการเคลื่อนไหวและมวลชนกันเอง

หนึ่งในนั้นคือ ‘เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์’ ออกมาระบุว่า ตนเป็นสมาชิกแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ไม่ได้เป็นสมาชิกของกลุ่มเยาวชนปลดแอก และจุดยืนที่ปรากฏในเพจเยาวชนปลดแอกนั้น เป็นแนวทางของกลุ่มเยาวชนปลดแอกเอง ไม่ใช่แนวทางของตนและไม่ใช่ของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และไม่ใช่มติของกลุ่มราษฎร

เพนกวิน พริษฐ์ ม็อบ ห้าแยกลาดพร้าว คณะราษฎร ศาลรัฐธรรมนูญ 6202.jpg

อย่างไรก็ตามยังมีความไม่เป็นเอกภาพของ ‘ขบวนการ์ด’ อยู่ด้วย ที่แบ่งเป็น 10 กลุ่ม นำมาสู่การแยกตัวของ ‘การ์ดวีโว่’ ที่นำโดย ‘โตโต้-ปิยรัฐ จงเทพ’ ออกจากขบวนการเคลื่อนไหวของกลุ่มราษฎร หลังเกิดเหตุ ‘การ์ดอาชีวะ’ ทำร้าย ‘การ์ดวีโว่’

โดย ‘โตโต้’ ขอให้ติดตามการเคลื่อนไหวต่อไป ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มการ์ดวีโว่ได้เข้ารื้อลวดหนามหีบเพลงของ ตร. ที่กีดขวางทางเดินตามที่ประชาชนร้องเรียนมา

ก่อนหน้านึ้ ‘ไมค์-ภาณุพงศ์ จาดนอก’ แกนนำกลุ่มราษฎร ได้ประกาศควบรวม ‘จัดระเบียบการ์ด’ ขอให้การ์ดอาสาทุกกลุ่มมาลงทะเบียนใหม่ ทว่าสุดท้าย ‘ขบวนการ์ด’ ยังคงมีปัญหาเกิดขึ้น ล่าสุดทำให้ ‘เพนกวิน-พริษฐ์’ประกาศยุติบทบาท ‘การ์ดอาสา’ ทั้งหมดในการชุมนุม

ซึ่งปัญหาของ ‘การ์ดอาสา’ ทั้ง 10 กลุ่ม มีปัญหาเรื่อง ‘การสื่อสาร’ ที่ไม่เป็นเอกภาพและเป็นเอกเทศต่อกัน รวมทั้งการดูแลที่ไม่ทั่วถึง เพราะไม่มี ‘ระบบสั่งการ-บังคับบัญชา’ ที่ชัดเจน จึงเป็น ‘จุดอ่อน’ ของการ์ด หนึ่งใน ‘แกนนำการ์ด’ ที่มักมีวิวาทะกับ ‘แกนนำกลุ่มราษฎร’ คือ ‘สมบัติ ทองย้อย’ อดีตหัวหน้าการ์ด นปช. ที่มานำทีม ‘การ์ดเสื้อแดง’ ในการชุมนุมของกลุ่มราษฎร 

โดยล่าสุด ‘สมบัติ’ ได้ออกมาแฉถึงการยุติ ‘การ์ดอาสา’ โดยอ้างว่ามีคนเล่าให้ฟังว่า ไม่ใช่การ์ดมืออาชีพ แต่เป็นการ์ดที่เจ้าของม็อบ บอกให้เพื่อนไปเปิด ‘บริษัทการ์ด’ รอล่วงหน้า เพื่อรองรับการทำงานที่จะเกิดขึ้น โดยเงินจ้างการ์ดก็จะเข้าบริษัทเพื่อน

อีกทั้ง ‘สมบัติ ทองย้อย’ ยังเคยมีวิวาทะกับ ‘ทราย อินทิรา เจริญปุระ’ แม่ยกที่ให้การสนับสนุนกลุ่มราษฎร

หลัง ‘ทราย’ โพสต์ข้อความระบุว่า ‘การ์ดเสื้อแดง’ ไม่ให้ความร่วมมือในการลงทะเบียนภายใต้กติกาเดียวกัน ย้ำไม่ได้กีดกัน และมีเหตุการณ์การ์ดเสื้อแดงถีบรถเกิดขึ้นตามมา ซึ่ง ‘สมบัติ’ ก็ได้ขอโทษต่อสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ก็ได้กล่าวตัดพ้อว่า การ์ดเสื้อแดงมันเลวมากหรืออย่างไร ซึ่งตนทำงานๆ จะเอาอะไรกับพวกตนอีก

มาตรา 112 สถาบัน 201217_17.jpg

ในฝั่งฝ่ายความมั่นคงที่เฝ้ามองการเคลื่อนไหวของกลุ่มราษฎรอย่างเป็นระบบ ไม่บุ่มบ่ามจัดการใดๆ รอให้ ‘สถานการณ์สุกงอม’ และให้เกิดความชัดเจนของ ‘ขบวนการทั้งระบบ’ ในระบบบริหารจัดการต่างๆ หรือที่เรียกว่า ‘ขุดบ่อล่อปลา’ นั่นเอง 

หลังฝ่ายความมั่นคงปล่อยให้กลุ่มราษฎรเคลื่อนไหวชุมนุมมาหลายเดือน หนึ่งในสิ่งที่ตามมาคือการดำเนินคดีในห้วง 1 เดือนมานี้ คือ มาตรา 112 หลังการชุมนุมใหญ่แยกราชประสงค์-สตช. เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา ผ่านข้อความต่างๆ รวมทั้งการชุมนุมยังพื้นที่เชิงสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับสถาบัน และเนื้อหาปราศรัย-การจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ที่สื่อถึงสถาบันมากขึ้น

ทั้งนี้ ‘อานนท์ นำภา’ ได้ออกมาระบุว่า ตอนนี้หน่วยงานความมั่นคงคงพยายาม ‘แยกน้ำแยกปลา’ ของคนในขบวนม็อบว่าใครมีแนวคิดยังไง ซึ่ง ‘ทนายอานนท์’ ย้ำว่า ตนยังคงยึดหลัก ‘เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ’ ท่ามกลาง ‘แนวทาง-ความคิด’ ของขบวนการเคลื่อนไหวขอวกลุ่มราษฎรที่หลากหลาย

หากมองให้ดี ‘ยุทธการแยกปลาออกจากน้ำ’ ของฝ่ายความมั่นไม่ได้มีเท่านี้ โดยที่ผ่านมาจะพบว่ามีความพยายาม ‘เจาะระบบการ์ด’ ด้วย โดยเรื่องนี้ ‘โตโต้-ปิยรัฐ’ เคยระบุว่า จุดอ่อนคือเมื่อใครก็ได้สามารถรวมกลุ่มกันขึ้นมาเป็นการ์ดให้กับผู้ชุมนุม ในแง่หนึ่งคือเรื่องดี แต่ในอีกแง่หนึ่งคือความอ่อนแอ่ด้านความมั่นคงของขบวนการ ที่ง่ายต่อการแทรกซึมของผู้ไม่หวังดี ซึ่งตนก็เห็นเค้าลางนี้มาสักระยะ เพียงแต่ลำพังตัวคนเดียวไม่สามารถจัดการปัญหาเชิงระบบได้ ดังที่ตนเคยโพสต์ไปเหมือนหลายวันก่อนว่า ถ้าเขาจะทำลายขบวนการการต่อสู้ เขาจะทำลายการ์ดเป็นกลุ่มแรกๆ

โตโต้ ปิยรัฐ วีโว่ ตำรวจ เทเวศร์ ม็อบ 3D5-B4BE-BC4D6333487C.jpeg

ทั้งนี้การชุมนุม 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา ถือเป็นการ ‘ชุมนุมใหญ่’ ส่งท้ายปี 2563 แม้จะมีการจัดงาน 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา 16 ซึ่งไม่ใช่การชุมนุมใหญ่อย่างเช่นที่ผ่านมา แต่ เป็นการชุมนุมในวันเชิงสัญลักษณ์ นั่นคือวันรัฐธรรมนูญ ผ่านการจัดเสวนาพูดถึง ม.112 เป็นหลัก โดยแกนนำได้ประกาศว่าการชุมนุมจะเกิดขึ้นอีกครั้งในต้นปี64

ท่ามกลางจำนวนผู้ชุมนุมที่ลดลงไปบ้าง หลังฝ่ายรัฐบาลพยายามเลี่ยงการ ‘สร้างเงื่อนไข-ชนวนเหตุ’ ที่จะถูกนำมาปลุกในการชุมนุม

โดยห้วง 1 เดือนที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าแกนนำผู้ชุมนุมได้พูดถึง ‘การลาออก’ ของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะเกิดขึ้นก่อน 25 พ.ย. หรือก่อนการชุมนุมที่หน้าสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ แม้จะเปลี่ยนมาที่หน้า ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่แทน

รวมทั้งการนัดชุมนุม ‘ฝึกต้านรัฐประหาร’ ที่ห้าแยกลาดพร้าว หลัง ‘ทนายอานนท์’ โพสต์แนวทางต้านรัฐประหาร ส่วน ‘เพนกวิน-พริษฐ์’ ทวีตข้อความว่า มีสัญญาณรัฐประหารแรง พร้อมอ้างถึงชื่อ พล.อ.ภิรัชต์ คงสมพงษ์ ซึ่งเป็นรองเลขาธิการพระราชวัง กำลังเดินสายล็อบบี้พวกตัวเองให้มาก่อรัฐประหารทว่าทั้งหมดยังคงเป็นเพียง ‘กระแสข่าว’ เท่านั้น

ทั้งนี้ ‘ทนายอานนท์’ ระบุว่าม็อบปีนี้แค่โหมโรง ปีหน้าจะยิ่งกว่านี้ จึงต้องจับตาว่า ‘กลุ่มราษฎร’ จะงัดไม้ใดมางัดกับฝ่ายรัฐ ส่วนฝั่งฝ่ายความมั่นคงที่ใช้ ‘ยุทธการขุดบ่อล่อปลา’ มาสู่ ‘ยุทธวิธีแยกปลาออกจากน้ำ’ จะใช้แนวทางใดต่อไป เพราะต่างฝ่ายต่างรู้มือกันขึ้นเรื่อยๆ

ปีฉลูจะฉลุยอีกหรือไม่ ?

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปริศนา ลายพราง
164Article
0Video
39Blog