สำนักข่าวไทยรายงาน นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวถึง มาตรการ "ชิม ช้อป ใช้" ข้ามจังหวัด ซึ่งเป็นมาตรการหนึ่งของรัฐบาลที่ต้องการจะกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยผลักดันให้มีการใช้จ่ายสินค้าอุปโภคบริโภคภายในประเทศ โดยจะเปิดให้ประชาชนที่มีอายุเกิน 18 ปีขึ้นไปจำนวน 10 ล้านคนลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ รับเงิน 1,000 บาทเข้าในบัญชีเพื่อใช้สำหรับการเดินทางท่องเที่ยว โดยหวังว่ามูลค่าการใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ 2-3 เท่าจากจำนวนเม็ดเงินที่เติมในโครงการนี้ที่ใช้เม็ดเงินประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ที่สำคัญยังเป็นการกระจายรายได้ลงสู่เศรษฐกิจฐานราก
นายยุทธศักดิ์ กล่าวต่อว่า โดยได้กำหนดเงื่อนไขผู้เข้าร่วมโครงการต้องเป็นประชาชนทั่วไป ซึ่งจะต้องมีบัตรประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียนและต้องระบุจังหวัดที่จะเดินทางไปท่องเที่ยว 1 จังหวัด โดยจะต้องไม่ใช่จังหวัดที่อยู่บนบัตรประชาชน กำหนด 1 คนต่อ 1 สิทธิ และจำกัดเพียง 10 ล้านคนแรกเท่านั้น โดย ททท. กำลังหารือกับกระทรวงการคลังถึงวิธีการในการลงทะเบียนและระยะเวลาในการรับลงทะเบียนรับสิทธิ โดยจะต้องดูระบบให้เกิดความพร้อมมากที่สุด อาจจะเป็นการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ของกระทรวงการคลัง หรือของ ททท.
อย่างไรก็ตามต้องดูขีดความสามารถในการรองรับ หากมีประชาชนสนใจลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก รวมทั้งการเตรียมความพร้อมในการวางจุดที่จะสแกนคิวอาร์โค้ดในการใช้จ่าย โดยจะพยายามให้เร็วที่สุดคาดว่าภายในกลางเดือน ก.ย. น่าจะเริ่มลงทะเบียนได้ โดยเมื่อลงทะเบียนแล้วต้องใช้สิทธิภายใน 14 วัน ถ้าไม่ใช้สิทธิภายในเวลาที่กำหนด ก็จะมีการคืนสิทธิไปเพื่อให้รายอื่นเข้ามาใช้สิทธิต่อทันที โดยมีระยะเวลาการใช้สิทธิถึงเดือน พ.ย.
นอกจากนี้ในมาตรการ "ชิม ช้อป ใช้" ยังมีเงินสนับสนุนเงินชดเชย หรือได้รับเงินสดคืนจำนวน ร้อยละ15 จากยอดการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวสำหรับค่าอาหารและเครื่องดื่ม ซื้อสินค้าท้องถิ่นและค่าที่พักรวมกันแล้วสูงสุดได้ไม่เกินคนละ 30,000 บาท หรือได้รับเงินคืนสูงสุด 4,500 บาท ซึ่งทั้ง 2 มาตรการนี้ จะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายตามเป้าหมายของรัฐบาล และเมื่อรวมกับมาตรการส่งเสริมอื่น ๆ แล้วจะช่วยดันให้จีดีพีขยายตัวไม่น้อยกว่าร้อยละ 3