สำนักข่าวไทย รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2563 ที่ผ่านมา เกิดเหตุก๊าซแอมโมเนียรั่วที่โรงน้ำแข็ง ชื่อ 'โรงน้ำแข็งยั่งยืน' ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 10 บ้านห้วยนา ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
โดยโรงงานผลิตน้ำแข็งดังกล่าวมีถังบรรจุก๊าซแอมโมเนียขนาดใหญ่ ซึ่งก๊าซรั่วบริเวณวาล์วที่ใช้ในการปิด-เปิด และไม่สามารถแก้ไขได้ จำเป็นต้องใช้น้ำยาเคมีฉีดเพื่อลดการแพร่กระจายของก๊าซ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดเพชรบูรณ์ เข้าตรวจสอบและประเมินสถานการณ์ โดยได้มีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่และปิดกั้นบริเวณในรัศมี 1 กิโลเมตร จากจุดเกิดเหตุ
ด้านนายอำเภอเขาค้อ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปิดกั้นการจราจร และตรวจสอบว่าในรัศมี 1 กิโลเมตร มีผู้ป่วย เด็ก และผู้สูงอายุกี่ราย ได้มีการประกาศให้ประชาชนที่อยู่ในรัศมี 1 กิโลเมตร อพยพออกมาอยู่ที่วัดแคมป์สน หรือที่บ้านญาติ โดยมีประชาชนราว 200 คน ที่ได้รับผลกระทบ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เข้าไปช่วยระดมฉีดน้ำ เกิดออกซิเจนหมดและสูดก๊าซแอมโมเนียเข้าไป ทำให้เป็นลมไม่ได้สติ จึงต้องรีบปฐมพยาบาลและนำตัวส่งโรงพยาบาล
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ยังต้องระดมฉีดน้ำเลี้ยงกันอยู่ เพื่อไม่ให้ก๊าซแอมโมเนียแพร่ฟุ้งกระจาย เนื่องจากก๊าซแอมโมเนียยังไม่หมด และไม่สามารถซ่อมวาล์วเปิด-ปิดถังก๊าซได้
ล่าสุดเช้าวันนี้ (8 ต.ค.) เจ้าหน้าที่จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้าตรวจสอบ ใช้เครื่องมือตรวจวัดปริมาณก๊าซ ที่ยังตกค้างอยู่บริเวณโดยรอบ พบว่าอยู่ในระดับที่ไม่เป็นอันตราย ต่อบุคคลที่อยู่รอบข้าง แต่เจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องที่เข้าไปตรวจสอบยังต้องสวมหน้ากากอนามัย เนื่องจากยังมีกลิ่นก๊าซโชยมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนต้นไม้ใบไม้โดยรอบ มีลักษณะถูกเผาไหม้ และคาดว่าน้ำที่ใช้ฉีดก๊าซได้ไหลลงสู่แหล่งกักเก็บน้ำ ของโรงงานน้ำแข็ง ทำให้ปลาที่อยู่ในสระน้ำตายเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างน้ำ เพื่อนำไปตรวจสอบต่อไป ขณะที่ชาวบ้านที่อพยพไปพักค้างอยู่ที่วัดแคมป์สน ได้กลับเข้าบ้านตั้งแต่ช่วง 03.00 น. ที่ผ่านมา
คพ.ยันปชช.ปลอดภัย ตรวจคุณภาพน้ำ-อากาศ ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
อรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 9 พิษณุโลก ร่วมกับ ปภ. จังหวัดเพชรบูรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าควบคุมเหตุการณ์แล้ว โดยวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. ได้ติดตามสถานการณ์และมอบหมายให้สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 3 (สสภ.3) คพ. เฝ้าระวังเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด ในส่วนการดำเนินการระงับเหตุ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กฤษณ์ คงเมือง สั่งการหน่วยงานในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อพยพประชาชนในพื้นที่ประมาณ 48 ราย ไปยังพื้นที่ปลอดภัยแล้ว มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 ราย (แรงงานของโรงงาน 1 ราย จนท.ปภ. 1 ราย) ได้รับการรักษาเรียบร้อย โดยเจ้าหน้าที่ ปภ. ได้ฉีดน้ำบริเวณโดยรอบอย่างต่อเนื่องตลอดเวลากระทั่งก๊าซแอมโมเนียพ้นระยะอันตราย
อรรถพล กล่าวต่อว่า จากการสำรวจสภาพสิ่งแวดล้อมโดยรอบเมื่อเช้าวันนี้ (8 ต.ค. 2563) พบว่า 1.ไม่พบปลาหรือสิ่งมีชีวิตตายบริเวณคูน้ำทางเข้า 2.ต้นไม้ในพื้นที่โรงงานด้านข้างและด้านหลังรัศมี 50 ม. พบร่องรอยใบไหม้รุนแรง 3.โรงงานไม่มีการระบายน้ำเสียออกนอกบริเวณ 4.ด้านหน้าโรงงานมีกลิ่นแอมโมเนียเบาบาง 5.บริเวณด้านหน้าและด้านข้างโดยรอบโรงงานรัศมี 100 ม. มีบ้านเรือนตั้งอยู่ประมาณ 20 หลังคาเรือน ขณะที่ในรัศมี 300 ม. ด้านหลังถัดจากอาคารโรงงานไม่มีบ้านเรือนตั้งอยู่ และ 6. โรงงานยุติการผลิต ขณะนี้มีคนงานกลับเข้าไปทำงานตามปกติ และชาวบ้านโดยรอบเริ่มทยอยกลับเข้าพื้นที่
ทั้งนี้ คพ. โดย สสภ.3 ได้ตรวจวัดคุณภาพน้ำและคุณภาพอากาศ ณ บริเวณเกิดเหตุและบริเวณโดยรอบ พบว่า คุณภาพน้ำและคุณภาพอากาศอยู่ในระดับที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ และจะดำเนินการตรวจสอบและเฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง