สถานเอกอัครราชทูตสวีเดนประจำประเทศไทยโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กเพจทางการ Embassy of Sweden in Bangkok ยกย่องการออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองของ ‘มารีญา’ โดยระบุว่า “เรามีความภาคภูมิใจอย่างมากที่ได้เห็น มารีญา พูลเลิศลาภ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 เชื้อสายไทย-สวีเดน ออกมาเป็นกระบอกเสียงให้กับประชาธิปไตยและความเท่าเทียม”
ทางสถานทูตยังกล่าวด้วยว่า สวีเดนมีระบบการใช้อำนาจแบบประชาธิปไตยที่สร้างขึ้นบนพื้นฐานของการเปิดกว้างและความโปร่งใส ที่ซึ่งทุกคนมีสิทธิเหมือนกัน อำนาจทุกอย่างมาจากประชาชน และคุณทราบหรือไม่ว่า มากกว่า 87 เปอร์เซ็นต์ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งออกมาใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา?
ในโพสต์เดียวกันนี้ สถานเอกอัครราชทูตสวีเดนประจำประเทศไทยยังได้แชร์คลิปการให้สัมภาษณ์ของมารีญา กับสื่อ The Politics ข่าวบ้าน การเมือง อีกด้วย โดยใจความตอนหนึ่งมารีญาระบุว่า "เด็กสมัยนี้เขาแคร์ถึงอนาคตของเขา เขาแคร์ถึงสังคมที่ทุกๆคนเราได้อยู่ด้วยกัน ไม่ได้ออกมาแบบโง่ๆ เขาออกมากับพลัง กับเหตุผล กับทางที่สร้างสรรค์มาก การที่เราผูกโบว์ขาวบนผม โห มันเป็นภาพแบบเชิงสัญลักษณ์ เป็นภาพที่สวยงามมาก แล้วยังมีคนสามารถคุกคามคนที่ทำแบบนี้ด้วย ซึ่งมันโชว์เลยว่าเราไม่สามารถยอมรับหรอว่ามันมีความแตกต่างกัน"
ทั้งนี้ มารีญา พูลเลิศลาภ ยังได้ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว VoiceOnline เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วย โดยเธอชี้ว่า การที่เธอส่งเสียงแสดงความคิดเห็นในประเด็นทางการเมือง เพราะต้องการสนับสนุนให้ประชาชน มีสิทธิ เสรีภาพ และความเท่าเทียมในสังคม ซึ่งเป็นก้าวย่างแห่งประชาธิปไตย ประเทศที่มีประชาธิปไตยอันแข็งแกร่ง ประชาชนควรร่วมแสดงความคิดเห็นได้ เพราะถือเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่อยู่ในสังคมเดียวกัน ย่อมมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้ แต่ก็ต้องพร้อมทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน นำพาไปสู่การแสวงหาทางออก หรือการแก้ปัญหาร่วมกัน
การที่เด็กรุ่นใหม่ออกมาเคลื่อนไหว เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง อาจเป็นเพราะพวกเขาเริ่มฉุกคิด “มันมีอะไรบางอย่างที่ต้องเปลี่ยนแปลง” แต่กลับรู้สึกว่าถูกกดทับ ห้ามพูด ห้ามตั้งคำถาม อย่างไรก็ตาม ในยุคศตวรรษที่ 21 หาใช่เรื่องยากที่คนรุ่นนี้จะตาสว่าง ผ่านโลกไร้พรมแดนอย่าง ‘โซเชียลมีเดีย’
“คือคนเราไม่ได้โง่แล้ว” มารีญาตอบพลางหัวเราะเบาๆ “พูดตรงๆ”
อ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็ม : เสียงนางงาม ‘มารีญา พูลเลิศลาภ’ เงียบไม่ได้ เมื่อรู้สึกว่าสิ่งที่เกิดขึ้น 'ไม่แฟร์'