กรณีที่ นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงเมื่อวานนี้ (6 ม.ค.65) ว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีคำสั่งให้งดการประชุมสภาฯ เพิ่มเติมจนถึงวันที่ 12-14 ม.ค. ด้วยเหตุผลทางสาธารณสุข พร้อมชี้แจงว่า ได้ติดต่อไปยัง วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เพื่อถามแล้วว่า การสั่งงดประชุมดังกล่าวมีผลเสียหายต่อราชการหรือไม่ วิษณุ ตอบว่าไม่มีความเสียหาย จึงมีคำสั่งดังกล่าวออกมานั้น

ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.เขตบางขุนเทียน และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า บุคคลที่ประธานสภาควรถามคือประชาชนผู้เป็นเจ้านายและเจ้าของภาษีที่จ้างเรามาทำงาน ไม่ใช่ไปถามเนติบริกรของรัฐบาลเพื่อหาความชอบธรรมทางเทคนิคกฎหมาย ตั้งแต่ปีใหม่มาถึงตอนนี้ เป็นเวลา 2 สัปดาห์แล้วยังไม่มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเลย ในขณะที่ปัญหาของพี่น้องประชาชนมีเต็มไปหมดซึ่งจำเป็นต้องใช้รัฐสภาเป็นพื้นที่ในการแก้ปัญหา ตนเป็น ส.ส.กรุงเทพฯ ปัญหาด้านสาธารณสุขในพื้นที่กำลังมีวิกฤตซ้อนวิกฤตท่านรู้บ้างหรือไม่ เราไม่ได้เจอแค่การระบาดของโควิดสายพันธุ์โอไมครอน แต่ยังมีปัญหาฝุ่นพิษ P.M.2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจของพี่น้องประชาชน เรายังเจอปัญหาหมูแพงที่กระทบต่อค่าครองชีพของผู้มีรายได้น้อยและพ่อค้าแม่ค้าเขียงหมูทุกตลาด อีกไม่กี่วันเราจะเจอค่าไฟแพง ค่าแก๊สแพง หลายบ้านหลายครอบครัวตอนนี้กำลังเจอหนี้นอกระบบ พวกเราเจอความเดือดร้อนแบบเดินไปตรงไหนมีทั่วทุกหัวระแหงไปหมด แต่ท่านกลับปิดประตูในการรับฟังปัญหาของพวกเขา  

“ยิ่งมีวิกฤต ยิ่งต้องรีบเปิดสภาเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน เพราะเราเป็นผู้แทนราษร ต้องเอาความทุกข์ร้อนของเขามาพูด มาถามต่อภาครัฐให้หาทางช่วยเหลือ เพื่อนสมาชิกพรรคก้าวไกลของผมหลายคนก็รอที่จะถามรัฐมนตรีเกษตร รัฐมนตรีพาณิชย์ คนพรรคเดียวกับท่านประธาน ว่าไอ้ที่หมูแพงขนาดนี้จะแก้ไขอย่างไร ต้นเหตุที่ทำให้หมูหายไปจากตลาดหลายล้านตัวมันมาจากอหิวาห์หมู หรือ ASF จริงหรือไม่ ถ้าจริงระบาดตั้งแต่เมื่อไหร่ ใครปิดข่าว ถ้าหรือถ้าไม่จริงความจริงคืออะไร ท่านต้องให้หัวหน้าพรรคท่านมาตอบ สองสัปดาห์แล้วครับที่ประชาชนไม่มีสภาผู้แทนราษฎรเป็นพื้นที่สะท้อนปัญหา เป็น ส.ส.ต้องทำงานให้คุ้มค่าภาษีทุกบาททุกสตางค์ที่มาจากประชาชน ขณะนี้กำลังมีการเลือกตั้งซ่อมอีก 3 เขต ทั้งในกรุงเทพ ชุมพร และสงขลา บอกเลยว่า ทั้ง 3 เขต หากเลือกตัวแทนจากพรรคก้าวไกล เราจะทำงานอย่างเต็มที่ในการเอาปัญหาของพี่น้องประชาชนเข้าสู่สภา ไม่ปิดสภาหนีการรับฟังปัญหาของประชาชนแน่นอน”

ณัฐชา ยังกล่าวอีกว่า ตนเข้าใจดีเรื่องข้อกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางสาธารณสุข ด้วยตัวเลขของโอไมครอนที่สูงขึ้น แต่เราไม่ได้เจอสถานการณ์แบบนี้วันแรก จะต้องมีวิธีการในการประชุมสภาภายใต้มาตรฐานการควบคุมโรคได้แล้ว เพราะหากใช้เกณฑ์แบบท่านประธาน ตัวเลขขึ้นสูงก็สั่งปิด สั่งเลื่อน สภาคงได้ปิดกันไม่ต่ำกว่า 6 เดือน เพราะหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าการะบาดระลอก 5 กำลังมา ตัวเลขมีแต่จะชันขึ้น แต่เรามีประสบการณ์เรื่องนี้มาแล้ว 2 ปี ส.ส.เป็นกลุ่มแรกๆในประเทศที่ได้รับวัคซีนเพื่อประชาชนหวังว่าจะสามารถไปทำหน้าที่แก้ปัญหาให้พวกเขาได้ เชื่อว่า ขณะนี้ส่วนใหญ่ก็คงได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 เป็นเข็มกระตุ้นแล้ว อาจนำมาเป็นเกณฑ์ในการเข้าสภา ควบคู่กับการตรวจ ATK ก็ได้ มีอีกหลายมาตรการที่จะมาใช้ จึงไม่มีเหตุใดเลยที่สภาจะไม่ทำหน้าที่ถึงสองสัปดาห์ติดต่อกัน

เช่นเดียวกับ เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ขณะนี้จังหวัดชลบุรีที่ตนอาศัยกำลังเผชิญกับยอดผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนเป็นจำนวนมาก เรียกได้ว่า ผู้ติดเชื้อรายวันสูงเป็นลำดับหนึ่งสลับกันกับกรุงเทพแบบวันต่อวัน สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เกิดความวิตกกังวลในพื้นที่อย่างมาก ทั้งในทางสาธารณสุขและทางเศรษฐกิจ พวกเขาต้องการรู้ว่า มีการเตรียมพร้อมรับเหตุฉุกเฉินไว้อย่างเพียงพอหรือไม่ จะมีเหตุการณ์แบบที่เป็นข่าวเมื่อไม่กี่วันก่อนว่ามีโรงพยาบาลปฏิเสธผู้ป่วยที่พบว่าติดเชื้อโควิดแต่ไม่รับรักษาหรือไม่ จะมีเตียง ยา และบุคลากรเพียงพอไม่เกิดเหตุคนไข้ล้นโรงพยาบาลเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในการระบาดระลอกก่อนหรือไม่

ส่วนร้านอาหารต่างๆ แม้วันนี้ผลการประชุม ศบค. จะออกมาว่า ยังไม่มีการล็อกดาวน์หรือยังอนุญาตให้ร้านอาหารยังสามารถดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ในกรอบเวลาควบคุม แต่เรารู้กันดีว่ามาตรการของรัฐบาลเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตลอด วันนี้อย่างพรุ่งนี้อย่าง หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงจนต้องควบคุมเข้มงวด รัฐบาลได้เตรียมมาตรการเยียวยาพวกเขาไว้อย่างไร นี่คือความกังวลจากพื้นที่สภามีความสำคัญอย่างยิ่งในการหาคำตอบให้พวก