วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการบริหารจัดการขยะพลาสติกและขยะอิเล็กทรอนิกส์ กล่าวถึงกรณีภาคเอกชนต้องการนำเข้าขยะพลาสติกจากต่างประเทศว่า จนถึงขณะนี้คณะอนุกรรมการฯ ยังไม่ได้มีมติออกมาว่าจะให้นำเข้าหรือไม่ โดยจะขอพิจารณาข้อมูลภาพรวมว่า แต่ละปีโรงงานรีไซเคิลขยะพลาสติกในประเทศไทยมีความต้องการขยะพลาสติกมากน้อยเพียงใด และขยะพลาสติกในประเทศแต่ละปีมีปริมาณเท่าใด ขณะเดียวกันจะขอข้อมูลจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องนำมาประมวลด้วยว่ามีความขัดแย้งกันหรือไม่ เช่น ข้อมูลจากกรมโรงงานฯ กรมศุลกากร การท่าเรือแห่งประเทศไทย สมาคมผู้ประกอบการขยะ และสมาคมผู้ประกอบการพลาสติก

ล่าสุดข้อมูลที่ได้รับจากกรมโรงงานฯ กรมศุลกากร สถาบันพลาสติก พบว่า ตัวเลขปริมาณขยะของแต่ละหน่วยงานยังแตกต่างกัน

วราวุธ กล่าวต่อว่า ขณะที่เป็นที่ถกเถียงกันมาก ฝ่ายภาคเอกชนที่ต้องการนำเข้าขยะพลาสติก ระบุว่า ขยะพลาสติกในประเทศยังมีคุณภาพไม่เหมาะที่นำมาใช้ในโรงงานรีไซเคิล จึงจำเป็นต้องนำเข้าจากต่างประเทศมาใช้ ในขณะที่ฝ่ายเสียผลประโยชน์ระบุว่า ขยะพลาสติกในประเทศมีปริมาณเพียงพอ การนำเข้ามาจะทำให้ปัญหาการเก็บขยะในประเทศได้รับผลกระทบ ดังนั้น ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการฯ ต้องขอพิจารณาข้อมูลก่อน

นอกจากนี้ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังแสดงจุดยืนว่า ประเทศไทยไม่ใช่ถังขยะของประเทศอื่น โดยเน้นย้ำนโยบายว่าขยะพลาสติกที่นำเข้ามาบรรจุในตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งมีความยาวหลายเมตรจะต้องถูกตรวจสอบอย่างละเอียดว่า ภายในตู้คอนเทนเนอร์นั้น ๆ บรรจุขยะพลาสติกที่มีคุณภาพหรือไม่ ไม่ใช่ว่าใส่ขยะพลาสติกที่ใช้ในโรงงานรีไซเคิลเพียงด้านหน้าเท่านั้น ที่เหลืออาจใส่ขยะที่ตั้งใจนำมาทิ้งที่ประเทศไทยก็ได้