ไม่พบผลการค้นหา
ครม. ต่อเวลาปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ลงลิตรละ 5 บาท อีก 2 เดือน ถึง 20 ก.ค. นี้  บรรเทาความเดือดร้อนประชาชนและภาคธุรกิจ เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจต่อเนื่อง

อนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี วันนี้ ( 14 มีนาคม 2566) อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....  ขยายระยะเวลาปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท ออกไปอีก 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม - 20 กรกฎาคม 2566 บรรเทาความเดือดร้อน ลดผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนและภาคธุรกิจจากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบที่ยังคงผันผวน

กระทรวงการคลัง ประเมินผลกระทบต่อรายได้ของรัฐและผลกระโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับประมาณ 10,000 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งระยะเวลาการดำเนินการในครั้งนี้ ประมาณ 2 เดือน จึงคาดว่ารัฐจะสูญเสียรายได้ประมาณ 20,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม การลดอัตราภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันในครั้งนี้ ช่วยรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศซึ่งเป็นต้นทุนในภาคส่วนต่างๆ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำไม่ให้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วหรือในระดับที่จะเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ พิจารณาแล้ว ภาพรวมในระบบเศรษฐกิจทุกมิติ จะสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ครม.ยังเห็นชอบโครงการยกระดับความช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม สำหรับผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ อีก 20 บาทต่อคน 3 เดือน ในช่วงเดือนเมษายน - มิถุนายน 2566 สำหรับผู้ใช้สิทธิ 7.5 ล้านราย รวมเงิน 150 ล้านบาท

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) โครงการยกระดับ ความช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม สำหรับผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ โดยปรับเพิ่มความช่วยเหลือส่วนลดค่าซ้ือก๊าซหุงต้มจากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 

จากเดิม 80 บาท ต่อคน 3 เดือน เพิ่มอีก 20 บาท ต่อคน 3 เดือน รวมเป็น 100 บาท ต่อคน 3 เดือน ในช่วงเดือนเมษายน - มิถุนายน 2566 เพื่อบรรเทาผลกระทบจากราคา LPG ที่อยู่ในระดับสูงและลดภาระค่าครองชีพสำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย โดยคาดว่าผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐกลุ่มใหม่จะเริ่มใช้สิทธิได้ใน วันที่ 1 เมษายน 2566 นี้