เครือข่ายประชาชนอีสานเพื่อประชาธิปไตย(คปอป.) ออกแถลงการณ์ สนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอก โดยระบุว่า การบริหารประเทศของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีบริหารงานผิดพลาดบกพร่อง ปล่อยให้มีการทุจริตเอื้อประโยชน์ให้กับตนเองและพวกพ้อง โดยไม่มีการดำเนินคดีหรือจัดการกับนักการเมืองฝ่ายรัฐบาลที่มีพฤติกรรมที่ผิดกฏหมายอย่างเห็นได้ชัด เช่น กรณีบุกรุกป่าสงวน และรมช.แป้งมันรวมถึงกรณียืมนาฬิกาเพื่อน ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเป็นการใช้อำนาจโดยไม่ชอบธรรมมุ่งสืบทอดอำนาจเผด็จการของตนเองโดยไม่สนใจเสียงของประชาชน มีการบังคับใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือจัดการฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองและประชาชนที่เห็นต่างจากนโยบายการบริหารของตน
เห็นได้ชัดว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาไม่เคารพและปฏิบัติตามกฏหมายรัฐธรรมนูญ ประเด็นสำคัญคือ ความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนตั้งแต่เริ่มแรกในการเข้ามาบริหารประเทศจนมาถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยจมดิ่ง กิจการต่างๆต้องปิดตัวลง ส่งผลให้คนตกงานและอดอยากเป็นจำนวนมาก แต่ประชาชนก็ยังอดทนจนสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เป็นศูนย์ มาถึงช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวในระยะสั้นๆ
แต่รัฐบาลก็ยังประกาศขยายระยะเวลาในการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯออกไป อันเป็นการจำกัดสิทธิ เสรีภาพ ของประชาชน ที่จะดำเนินชีวิตอย่างปกติสุข โดยเฉพาะนโยบายที่มีต่อการปิดการเรียนการสอนในระดับอุดมศึกษาทั่วประเทศ อันเป็นเรื่องสำคัญต่อการพัฒนาการเรียนรู้ของเยาวชนไทย โดยอ้างว่าเป็นการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค แต่ในขณะเดียวกันกลับอนุญาตให้มีการเปิดสถานบันเทิงและร้านเหล้าได้ และเหตุการณ์ล่าสุดที่ได้มีการอนุญาตให้แขกวีไอพี ของประเทศเข้ามาในอาณาจักรประเทศไทยโดยไม่มีการเฝ้าระวังติดตามการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจของจังหวัดระยองได้รับความเสียหายอย่างหนักโดยปราศจากการรับผิดชอบของรัฐบาล
ในขณะเดียวกันรัฐบาลกลับฉวยโอกาสในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ห้ามการรวมกลุ่มของประชาชนหรือการชุมนุมประท้วง แต่รัฐบาลกลับผลักดันโครงการที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมดำเนินต่อไป อาทิเช่น โครงการผันน้ำ โขง เลย ชี มูล,เขื่อนศรีสองรัก อ.เชียงคาน จ.เลย ,โครงการเหมืองแร่โปแตช จ.อุดรธานี ,โรงงานอุตสาหกรรมอ้อย น้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวลในภาคอีสาน ,โครงการผันน้ำ กก อิง น่าน, นิคมอุตสาหกรรม อ.จะนะ จ.สงขลาและ เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เป็นต้น
จากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทำให้ นักศึกษา เยาวชน “กลุ่มเยาวชนปลดแอก” จัดชุมนุม ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ณ วันที่ 18 ก.ค. 2563 และต้องยุติการชุมนุมเมื่อเวลา 23.00 น.โดยเพื่อความปลอดภัยของผู้ร่วมชุมนุม และมีข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล คือ 1.ให้รัฐบาลยุบสภา 2.ให้มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 3.ให้รัฐบาลหยุดคุกคามประชาชน โดยอ้างกฎหมายความมั่นคงจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการแสดงความคิดเห็น
เราในนามกลุ่มประชาชนอีสานเพื่อประชาธิปไตย(คปอป.) ซึ่งเป็น กลุ่มองค์กรประชาชน นักวิชาการ ภาคประชาสังคม ที่เชื่อมั่นในระบอบการปกครองประชาธิปไตย จึงขอประกาศสนับสนุน กลุ่มเยาวชนปลดแอก ดังนี้
1.เรายืนยันและสนับสนุนการชุมนุมโดยสงบ เคารพในสิทธิและเสรีภาพของประชาชน
2.เราไม่เห็นด้วย กับเจ้าหน้าที่รัฐที่พยายามยั่วยุ ปลุกปั่น กลุ่มผู้ชุมนุมให้เกิดความวุ่นวาย นำไปสู่การใช้อำนาจในการสลายการชุมนุม
3.เราหวังว่าการชุมนุมจะไม่นำไปสู่การใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุมโดยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ
19 กรกฏาคม 2563
อ่านเพิ่มเติม