ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นแถลง นับจากวันที่ 7 ก.ย.นี้เป็นต้นไป ญี่ปุ่นจะเปิดรับนักเดินทางเพิ่มขึ้นจากเดิม 20,000 คนเป็น 50,000 คนต่อวัน โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้าประเทศผ่าน "กรุ๊ปทัวร์" อีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม Straits Times รายงานว่า การเพิ่มโควตายังคงมีข้อจำกัดอยู่มาก เนื่องจากนักเดินทางที่จะได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าญี่ปุ่นจะต้องเป็นบุคคล 'สัญชาติญี่ปุ่น' เท่านั้น หากไม่ใช่ ต้องเป็นชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในญี่ปุ่นอยู่แล้ว หรือไม่ก็ต้องเป็นการเดินทางเข้าประเทศเพื่อเหตุผลทางธุรกิจและผู้เดินทางด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว
ในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา รัฐบาลญี่ปุ่นอนุญาตให้นักเดินทางสามารถเข้าประเทศได้ผ่านทางการจัดทริปของกรุ้ปทัวร์ที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวด ส่งผลให้ผู้คนรู้สึกถึงความขาดอิสภาพในการใช้ชีวิตทั้งๆ ที่ต้องการเดินทางมาพักผ่อนและท่องเที่ยว
แม้ก่อนหน้านี้ ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นจะออกมาประกาศแล้วว่าทางรัฐบาลจะเดินหน้าผ่อนคลายมาตรการการเปิดรับคนเข้าเมืองให้สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ G7 ให้มากขึ้น อย่างไรก็ตามการผ่อนคลายที่ว่าอาจไม่เป็นไปอย่างที่หลายคนคาดหวัง
โลกยังคงตั้งข้อสงสัยอย่างต่อเนื่องว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งที่ญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศที่ต้องการรายงานจำนวนมากจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งประเด็นนี้สำนักข่าว Japan Times อธิบายเหตุผลไว้สั้นๆ ว่าเป็นเพราะ 'เหตุผลทางการเมือง' เพราะนายกฯ ญี่ปุ่นไม่ต้องการให้สถานการณ์ทางสาธารณสุขเผชิญกับความเลวร้ายภายใต้การบริหารงานของตน หลังได้รับบทเรียนจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมา