เมื่อวันพุธที่ผ่านมา(30 ม.ค.)นักพัฒนาเอกชนของเยอรมนีประกาศแผนพัฒนาพิพิธภัณฑ์ไส้กรอกบราทเวอร์สท พร้อมรีสอร์ทและสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ โดยรอบ ซึ่งพิพิธภัณฑ์ดังกล่าวจะย้ายจากเมืองเมืองโฮลเซาเช่นไปยังเมืองมิวเฮาเช่น ในรัฐทูรินเจีย ทางตะวันออกของเยอรมนี
ทั้งนี้นักพัฒนาเอกชนต้องเผชิญหน้ากับคำวิจารณ์จากกลุ่มต่างๆ หลังประกาศแผนย้ายพิพิธภัณฑ์ดังกล่าว เนื่องจากพื้นที่นักลงทุนเอกชนเข้าไปพัฒนานั้นอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของค่ายกักกันที่กลุ่มนาซีเยอรมันใช้คุมขังนักโทษ
ทางผู้บริหารพิพิธภัณฑ์ดังกล่าวออกมาชี้แจงว่า ทางพิพิธภัณฑ์ไม่ได้ตระหนักว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ และเจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์ดังกล่าวยืนยันจะไม่ย้ายพื้นที่พัฒนาพิพิธภัณฑ์หลังจากที่มีการสำรวจพื้นที่
ไรน์ฮาร์ด ชรัมม์ ประธานชุมชนยิวในรัฐทูรินเจียกล่าวว่า เขารู้สึกตกตะลึงและรู้สึกโกรธที่แผนดังกล่าวขาดความเข้าใจในเรื่องราวที่อ่อนไหวเช่นนี้
(ค่ายกักกันและคุมขังนักโทษในเมืองบุชเช่นวาลด์)
ขณะที่ริโคลา กันเนอร์ ลุตต์เก่นเนา จากมูลนิธิอนุสรณ์สถานบุชเช่นวาลด์ กล่าวว่า แผนพัฒนาพิพธภัณฑ์ดังกล่าวนั้นแสดงถึงการขาดความใส่ใจในรายละเอียดและการตระหนักรู้ทางประวัติศาสตร์ ทั้งนี้ทางมูลนิธิกล่าวว่า หลังจากสงครามโลกพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ในเยอรมนีหลายแห่งมักถูกมองข้ามหรือไม่เห็นถึงความสำคัญทางประวัติศาสตร์
ในช่วงนาซีเรืองอำนาจ ใ��เยอรมนีค่ายกักกันนักโทษถูกสร้างขึ้นหลายร้อยแห่ง และในเมืองบุชเช่นวาลด์ก็มีค่ายดังกล่าวกว่า 12 แห่ง มีการประเมินว่าในค่ายกักกันที่บุชเช่นวาลด์นี้มีผู้เสียชีวิตกว่า 56,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวยิว รวมไปถึงนักการเมืองฝั่งตรงข้ามพรรคนาซี กลุ่มคนรักเพศเดียวกัน และนักโทษจากโซเวียต และนักโทษในค่ายดังกล่าวส่วนใหญ่ถูกสังหารโดยพรรคนาซี หรือเสียชีวิตจากความเจ็บป่วยและความอดอยาก