เวลา 20.00 น. วันที่ 30 ส.ค. 2565 ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ โทนี่ วู้ดซัม (Toney Woodsome) ระบุผ่านรายการ CareTalk x Care ClubHouse ในหัวข้อ “ประยุทธ์” หยุดปฏิบัติหน้าที่..แล้วไงต่อ?” โดยช่วงแรกได้มีการพูดถึงเรื่องราวของ โทนี่ ในสองสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ได้ไปเจอผู้บริหารระดับสูงของกองทุนกาตาร์ ที่ให้ความเห็นเนื่องจากประเทศกาตาร์จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ว่า ตอนนี้กาตาร์ไปลงทุนกับโครงสร้างพื้นฐานหมดแล้ว และวันนี้เริ่มเอาเงินมาลงทุนเรื่องสุขภาพ การศึกษา และเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพราะต้องการให้คนเป็นสมัยใหม่ ซึ่งเรื่องนี้ตนเคยพูดสมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า ต้องลงทุนเรื่องคน เพราะคนเป็นปัจจัยสำคัญทำให้ประเทศเจริญ การลงทุนคนคือเรื่องการศึกษา พร้อมทั้งสุขภาพ ถ้าคนไม่แข็งแรงก็เป็นภาระ แต่ถ้าคนแข็งแรงก็เป็นพลัง

โทนี่ กล่าวอีกว่า 8 ปีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม อยู่มา เศรษฐกิจโตเฉลี่ยละ 1% ต่อปี ถือว่าเป็นการทำลายอนาคตของคนในชาติ ไม่นับเงินเฟ้อจะทำให้เด็กนักเรียนที่จบใหม่หางานทำลำบาก และคนทำงานอยู่เดิมเริ่มตกงาน ซึ่งเด็กจบใหม่ไม่รู้จะทำอะไร เพราะการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจไม่มี

อีกทั้งยังมีการพูดถึง ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คนล่าสุดอีกว่า เป็นเสมือนนกขุนทองใหม่ กาที่บอกว่าขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตามสัญญาไม่ได้เพราะเอาเงินไปใช้หนี้จำนำข้าวนั้นไม่ถูก เพราะการขึ้นค่าแรงไม่ใช่เงินหลวง เป็นการพูดที่สมองไม่เชื่อมกัน อุตส่าห์เรียนหนังสือมาอย่างดี แต่มาพูดว่า “นายกฯ เถื่อนอยู่ดูไบ” อยากชี้แจงว่า ตนไม่ใช่นายก ตนเป็นอดีตนายกฯ สงสัยไปเรียนวิธีฝึกพูดจาก ‘ปารีณา ไกรคุปต์’ 

“เพราะฉะนั้นวันนี้ ถ้ารัฐบาลจะอยู่ต่ออย่างไร ถึงเวลานั้นประชาชนจะเป็นคนตัดสินใจ ไม่ต้องมานั่งถกเถียงกันระหว่าง ป. นั้น ป. นี้ เพราะไม่ว่าจะ ป. ไหนก็ล้มเหลวทั้งหมด เราต้องคิดให้ดีว่าอะไรเป็นอะไร” โทนี่ กล่าว

‘นิติศาสตร์-รัฐศาสตร์-จริยธรรม’ ‘ประยุทธ์’ ควรพินิจ 

โทนี่ กล่าวว่า ในระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ระหว่างรอศาลวินิจฉัย จึงอยากสื่อไปว่า หลักการในการคิดว่าจะอยู่ได้หรือไม่ได้ อะไรควรหรือไม่ควร คือ ‘หลักนิติศาสตร์’ วันนี้กฎหมายเขียนชัดเจนว่า 8 ปี แต่มาบอกว่า 8 ปีเริ่มนับตั้งแต่ตรงนั้นตรงนี้ ไม่ถูก ตอนเข้ามาฉีกกฎหมายทุกฉบับ แต่เมื่อจะหมดอำนาจกลับดึงกฎหมายที่ไม่เกี่ยวมาใช้ทุกฉบับ หลักที่สองคือ ‘หลักรัฐศาสตร์’ คือ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน และบ้านเมือง

โทนี่ ระบุว่า วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ อย่าไปถามคนข้างตัว วันนี้คนส่วนใหญ่ไม่ต้องการแล้ว โพลทุกโพลเห็นตรงกัน อันนี้คือหลักรัฐศาสตร์ ส่วนหลักต่อมาคือ ‘หลักจริยธรรม’ อย่างวันที่ตนขายหุ้นชินคอร์ป พรรคประชาธิปัตย์บอกว่า ไม่ผิดกฎหมาย แต่ผิดจริยธรรม โดยอ้างว่า พ่อค้าก๋วยเตี๋ยวยังต้องเสียภาษี สุดท้ายตนก็ยุบสภา และคืนอำนาจในประชาชนเลือกตั้ง แต่ก็โดนบอยคอตการเลือกตั้ง 

“โดยประการทั้งปวง ถ้าผมเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่รอให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน ถอยแล้วหล่อกว่าเยอะ ถ้าเมื่อไหร่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้กลับไปทำงานใหม่ นั่นจะเป็นวันที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีความสุขเลยในชีวิต นี่พูดในฐานะรุ่นพี่ เพราะโดนมาก่อนทุกอย่าง ทุกรูปแบบ มันไม่มีประโยชน์อะไร คนเราอย่ายึดติด ไม่รู้ว่าวันนี้ยมบาลจะเอาไปเมื่อไหร่ อยู่ให้มีความสุข ถือเสียว่าได้ทำงานให้บ้านเมืองมานานพอสมควรแล้ว” โทนี่ กล่าว 

ชี้ 'ประยุทธ์' หมดวาระนายกฯ แล้วตั้งแต่ 24 ส.ค. 65 เชื่อศาล รธน.นับแต่ปี 60

รศ.ดร.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความเห็นต่อการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า โดยส่วนตัวคิดว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะนับตั้งแต่การประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2560 แต่โดยหลักการ พล.อ.ประยุทธ์ หมดวาระไปตั้งแต่ 24 ส.ค. 2565 แล้ว แต่ถ้าศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าอยู่ต่อได้ถึงปี 2568 การให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกมันคงเป็นความหวังของคนจำนวนหนึ่ง แต่ด้วยท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ คิดว่าจะสู้ต่ออย่างแน่นอน 

รศ.ดร.สิิริพรรณ กล่าวอีกว่า ทางที่ดีสุดหาก พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาคือ อยู่ไปจนถึงการประชุมเอเปค ที่ถูกมองว่าเป็นความหวังของรัฐบาลชุดนี้ แล้วค่อยประกาศยุบสภา เลือกตั้งใหม่ แต่อย่างไรก็ตามในการเลือกตั้งปี 2566 คงไม่มีพรรคการเมืองไหนที่จะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ แล้ว เพราะหากศาลวินิจฉัยให้หมดวาระปี 2568 ก็อยู่ได้อีก 2 ปีเท่านั้น อีกทั้งมูลค่าทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ในลักษณะรอวันหมดอายุ เป็นเรื่องยากที่จะได้รับความไว้วางใจจากสภาผู้แทนราษฎร

ย้ำ ‘ประวิตร’ รองนายกฯ รักษาการนายกฯไร้อำนาจยุบสภา

รศ.ดร.สิริพรรณ กล่าวว่า ประเด็นนี้ตนเห็นต่างจาก วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี โดยตามจริง ณ วันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็น ‘รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี’ ดังนั้น ตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 สิ่งที่ พล.อ.ประวิตร ทำแทน พล.อ.ประยุทธ์ ได้คือ ทำแทนในแง่การบริหารราชการแผ่นดิน เช่น นั่งเป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) หรือการบริหารส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น แต่การ ‘ยุบสภา’ ถูกกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ เป็นการตรวจสอบของสามฝ่าย (นิติบัญญัติ-บริหาร-ตุลาการ) ไม่ได้อยู่ในระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ดังนั้นตำแหน่ง ‘รองนายกรัฐมนตรี’ ทำไม่ได้ เพราะมันผิดหลักถ่วงดุลอำนาจ 

รศ.ดร.สิริพรรณ กล่าวว่า ตามหลักคือ ‘ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน’ มีศักดิ์ต่ำกว่า ‘รัฐธรรมนูญ’ อำนาจที่ไม่ได้ระบุไว้ในระเบียบริหารราชการแผ่นดิน พล.อ.ประวิตร จะทำไม่ได้ และที่สำคัญ พล.อ.ประวิตร จะยุบสภาได้อย่างไรในเมื่อเป็นรองนายกฯ ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง และไม่ได้ถูกเลือกจากสภาผู้แทนราษฎร หากเกิดสุญญากาศทางการเมืองขึ้นมาจริงๆ ประธานรัฐสภาต้องนัดประชุมร่วมกันเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี

จับตา ‘ประวิตร-อนุทิน’ ชิงนายก อย่าไปเชื่อคำพูด 'อนุทิน'

โทนี่ กล่าวว่า หากต้องเลือกนายกรัฐมนตีจากคนที่อยู่ในบัญชีก่อน ขณะนี้ฝั่งรัฐบาลเหลือเพียงแค่ ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ซึ่งวันนี้คงเต้นฟุตเวิร์กรอแล้ว ทั้งนี้ก็อยู่ที่ฝั่งรัฐบาล และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จะเลือก อนุทิน หรือไม่ แต่โดยส่วนตัวคิดว่า พล.อ.ประวิตร ไม่ยอม ทางฝั่ง ส.ว. และส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ไม่เลือกแน่ ส่วนทางฝั่งประชาธิปไตยก็ไม่มีทางเลือก 

ขณะที่บัญชีนายกรัฐมนตรีทางฝั่งประชาธิปไตยก็เหลือเพียงแค่ พรรคเพื่อไทย พรรคเดียว ก็คงไม่เลือกแน่นอน หากจะใช้การเลือกนายกรัฐมนตรีคนนอกก็ต้องใช้เสียง 2 ใน 3 ของทั้งสองสภาฯ ประมาณ 500 คน จะไปหามาจากไหน 

“แม้ว่า อนุทิน จะบอกว่า ไม่เลือกนายกรัฐมนตรีคนนอกแน่นอน ก็อย่าไปเชื่อ ขนาดตอนหาเสียงเลือกตั้งปี 2562 ยังบอกจะไม่เอาเผด็จการ แกพูดได้ แต่เชื่อไม่ได้” โทนี่ กล่าว

ขณะที่ รศ.ดร.สิริพรรณ กล่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลตีโดยประมาณ 260 กว่าเสียง ถ้าอิงตามมาตรา 272 วรรคสอง นายกรัฐมนตรีคนนอกจะเป็นใคร พล.อ.ประวิตร คงเต้นฟุตเวิร์กรออีกคน หาก ส.ว. เลือก พล.อ.ประวิตร มีเพียง 150 คน ตัวแปรสำคัญคือต้องมีฝ่ายค้านประมาณ 70 คนที่มาร่วมโหวตด้วย ส่วนจะมีฝ่ายค้านในนามพรรค หรืองูเห่า ก็คงเป็นไปได้ ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิง ทั้งนี้การเป็นนายกรัฐมนตรีในระยะเวลา 4-5 เดือน ก็เป็นผลดีต่อการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี เพื่อจัดขุมกำลังสู่การเลือกตั้งในปีหน้า 

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกฯ กล่าวว่า มันยังมีฉากทัศน์ทางการเมืองอื่นๆ ตามมาอีก ไม่ใช่แค่ไปถึงก๊อก 2 แล้วหานายกรัฐมนตรีคนนอก เพราะตัวเลือกคนนอกไม่ได้มีแค่ พล.อ.ประวิตร แค่คนเดียว แต่ก็คงเป็นตัวเลือกแรกที่ ส.ว. จะเลือก เพราะ พล.อ.ประวิตร เป็นประธานคัดเลือกมาเอง แต่ทั้งนี้กระแสประชาชนก็มีส่วน เพราะในช่วงนี้ พล.อ.ประวิตร พยายามลุกขึ้นมาทำนู่นทำนี่ โดยหวังว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่รอด แต่ถ้าหากที่ทำอยู่มันไม่เข้าตาประชาชน ในก๊อก 2 มันคงมีคนอื่นเพิ่มเข้ามา 

นพ.สุรพงษ์ กล่าวอีกว่า หวนให้นึกถึงช่วง พ.ค. ปี 2535 ที่ประชาชนรู้ดีว่า ‘อานันท์ ปันยารชุน’ อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้มาจาก ส.ส. แต่เมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าให้ อานันท์ เป็นนายกฯ ทุกคนก็เฮ เพราะมันเกิดวิกฤตสุญญากาศทางการเมืองจริงๆ แต่ทั้งนี้มันต้องเกิดภาวะตึงเครียดอะไรบางอย่างที่ทำให้ออกมาในช่องทางนี้

ส่วน โทนี่ กล่าวว่า วันนี้แนวโน้มมีแค่ 2 อย่างคือ ถ้าไม่เดดล็อค ก็ได้ พล.อ.ประวิตร คนนอกเหนือจากนี้คงดูท่าจะเป็นไปได้ยาก เพราะส.ว.เป็นตัวล็อค ดูจากการเลือกบัตรเลือกตั้งสองใบก็เป็นของ พล.อ.ประวิตร ทั้งนั้น พลังของ พล.อ.ประวิตร ยังอยู่ที่ ส.ว. อีกเยอะ ส่วนคนที่มาจากบัญชีรายชื่อื่นๆ ท่าทางจะลำบากเพราะไม่มี ส.ว. มาแบ็คอัพ 

โทนี่ ให้ความเห็นในประเด็นกฎหมายเลือกตั้งว่า วันนี้บ้านเมืองเรามีแต่เรื่องจิ๊บๆ เสียเวลากับเรื่องไร้สาระมาก เรื่องสาระความเป็นอยู่ และอนาคตของคนไม่ค่อยมีใครซีเรียส ทำให้ประเทศพัฒนาช้ากว่าที่อื่น มีแต่คนแต่งนิยาย แต่ไม่มีใครทำวิจัยเพื่อหาแนวทางที่แท้จริง และจินตนาการต่อไปเรื่อยๆ หากวัฒนธรรมไม่เปลี่ยน ประเทศไทยจะลำบาก แต่ทั้งนี้การเปลี่ยนวัฒนธรรมได้ ผู้นำต้องดีเสียก่อน 

“จริยธรรมของผู้ปกครองต้องสำคัญ อย่างน้อยๆ วันนี้ ผมนึกไม่ถึงว่า เรามีทหารมาปฏิวัติ มีพล.อ.เต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด แต่การเป็นผู้นำที่รู้จักเสียสละ เข้มแข็งดุจชายชาติทหารไม่รู้อยู่ไหนหมด สงสัยอยู่ในค่าย พอออกนอกค่ายก็หมด” โทนี่ กล่าว 

ฟันธงศาล รธน.ชี้ร่างกฎหมายเลือกตั้งไม่ขัด รธน.

รศ.ดร.สิริพรรณ กล่าวว่า แม้ว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะไม่มีข้อท้วงติงต่อ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ในร่างของ ครม. แต่ตอนนี้ต้องรอในส่วนของ นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ และส.ส.บางส่วนที่เข้าชื่อ 1 ใน 5 เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย แต่การยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความของพรรคจิ๋วนั้นคงไม่ได้ตีความว่า สูตรหาร 100 ขัดต่อรัฐธรรมนูญ แต่คงเป็นการยื่นเพื่อตีความ มาตรา 93 และ 94 ที่ยังค้างคาอยู่ แต่คิดว่าศาลรัฐธรรมนูญคงวินิจฉัยว่าไม่ขัด เพราะเป็นคำว่า ‘ส.ส.พึงมี’ 

สิริพรรณ ชี้ให้เห็นเพิ่มเติมอีกว่า เป็นที่น่าแปลกใจที่พรรคภูมิใจไทยบางส่วนไปเข้าชื่อกับ นพ.ระวี เพราะโดยหลักการ พรรคภูมิใจไทยจะเสียประโยชน์มากที่สุดจากการหาร 500 เพราะคะแนนนิยมเขตสูงกว่าคะแนนบัญชีรายชื่อ 

'โทนี่'คาดนายกฯ คนนอกอาจเป็นตำรวจก็ได้

ด้าน โทนี่ มองว่า หาก พล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯ คนนอกจริง พรรคพลังประชารัฐก็จะคึกคักขึ้นมาหน่อย หาก พล.อ.ประวิตร ไม่ได้เป็นนายกฯ คนนอก แล้วมีการยุบสภาเลยคงไม่คึกคักเท่าที่ควร ส่วนจะเสนอใครเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีนั้น อาจจะเปลี่ยนจาก ‘ทหาร’ เป็น ‘ตำรวจ’ หรือที่เขาพูดกันว่า ป.ที่ 4

ส่วนพรรคใหม่ที่จะได้เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีในรัฐสภาคงไม่มี สุดท้ายจะเหลืออยู่เพียงแค่ 5 พรรคคือ ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย พลังประชารัฐ และฝั่งประชาธิปไตยอีก 2 พรรคคือ พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล ขึ้นอยู่กับว่า 5 พรรคนี้จะรวมอย่างไรหลังการเลือกตั้ง 

“ส่วนการจับมือกันระหว่าง พรรคเพื่อไทย และพรรคพลังประชารัฐนั้น ตนมองอย่างไรก็มองไม่ออก เพราะเมื่อมองจากหลักการของอุดมการณ์ทางการเมืองแล้ว ก็ไม่มีทางมองออก แต่บางคนก็ไปแต่งนิยายว่า ป้อมคุยกับผมทุกวัน ในฝันยังไม่เคยฝันถึง ไม่รู้จะคุยตอนไหน” โทนี่ กล่าว 

โทนี่ กล่าวอีกว่า พรรคพลังประชารัฐสัญญาไว้เยอะแยะ แต่วันนี้ทำไม่ได้สักข้อ เมื่อทำไม่ได้ พล.อ.ประวิตร ก็คงจะไม่มีศักยภาพพอมาสานต่อ เพราะเงินเหลือน้อยลงไปทุกที แนวทางของพรรคพลังประชารัฐแก้ปัญหาไม่ได้ง่ายๆ เชื่อว่า เมื่อยุบสภาแล้วจะเห็นการวิ่งเปลี่ยนพรรคกันอย่างอุตลุต ส่วนคนที่เข้ามาในเพื่อไทยน่าจะมากกว่าคนออกโดยที่ไม่ต้องใช้กล้วย ใช้ผลงานเก่าๆ ที่เคยช่วยชาวบ้านไว้ 

"เลือกตั้งคราวหน้าสอนบทเรียนการเมืองสไตล์เก่า" โทนี่ ย้ำ

ขณะที่ รศ.ดร.สิริพรรณ มองว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะเข้มข้นขึ้น เพราะมีการใช้ทรัพยากร โดยเฉพาะฝั่งรัฐบาลที่แพ้ไม่ได้ จะมีตัวแปรหลักๆ คือแคนดิเดตนายกฯ สำคัญมาก การส่งมอบนโยบายในอดีตและปัจจุบัน แล้วก็อีกตัวแปรที่เข้ามาใหม่ เป็นเรื่องของบทบาทในสภาฯ ในการทำหน้าที่อภิปราย เสนอกฎหมาย ดังนั้น ที่ โทนี่วิเคราะห์จะมี 5 พรรคการเมืองเท่านั้นที่จะมีการเสนอแคนดิเดตนายกฯมาพิจารณา

ม้การเลือกตั้งครั้งหน้าจะเข้มข้น และอายุ ส.ว.จะเป็นครั้งสุดท้ายเลือกนายกฯ เป็นไปได้ที่การเลือกตั้งครั้งหน้ารอการเปลี่ยนแปลงใหญ่ รัฐบาลหลังเลือกตั้งครั้งหน้าอาจอยู่ไม่ยาวอาจเปลี่ยนแปลงหลัง ส.ว.หมดวาระ 

โทนี่ย้ำว่า ถ้ามีพรรคได้คะแนนเกิน 250 เสียงจะไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลง ส.ว. โดย ส.ว.จะไม่กล้าฝืน เพราะพรรคที่ต่ำกว่า 250 เสียงจะอยู่ยาก

คาดหลังเลือกตั้งแก้ รธน.เสร็จยุบสภา ผู้ฟังหนุนชง 'ชัชชาติ' นั่งนายกฯด้วย

รศ.ดร.สิริพรรณ บอกว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ส.ว.จะไม่กล้าโหวตสวน แต่สมมติถ้าไม่ได้แลนด์สไลด์ ก็เชือว่า ส.ว.ไม่กล้าโหวตสวน โดยหลายพรรคการเมืองจะชูเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แก้ปัญหาเศรษฐกิจย่ำแย่ เมื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จก็อาจจะยุบสภาฯ ได้ ถ้ามีพรรคหนึ่งเกิน 250 เสียงก็ชัดเจน 

มีผู้ฟังทางบ้านถามผ่านรายการว่า ถ้าการเลือกตั้งรอบหน้ามีเสนอชื่อ แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ส่วนคนที่สาม ตนอยากให้เสนอชื่อ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เหมือนเดิมในรอบหน้า โทนี่ระบุว่า แลนด์สไลด์แปลว่าถล่มทลายโดยคะแนนเสียงก็ได้ ชนะอะไรก็ได้ ดินถล่มก็ได้ อยู่ที่การแปล แต่เราใช้การเลือกตั้งได้คะแนนอย่างถล่มทลายมากเหลือเกิน 

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกฯ เชื่อว่า ชัชชาติจะไม่รับแคนดิเดตนายกฯ เพราะมุ่งหวังสร้างความสำเร็จพลิกโฉมกทม.ให้ได้ใน 4 ปี ถ้าครบ 4 ปี ก็จะมีคนอยากให้เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย สองชื่อแรกที่ถามเพื่อนนั้นยังไม่ได้สรุปแน่นอน เปลี่ยนแปลงได้ คงตัดสินใจตอนจะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ อีกที

'สิริพรรณ' บอกใบ้ พปชร.ชงแคนดิเดตนายกฯ ตำรวจ 2 คน

ถามว่า พรรคพลังประชารัฐจะเสนอใครเป็นนายกฯ รศ.ดร.สิริพรรณ ระบุว่า ครั้งหน้าอาจจะเป็นตำรวจ 2 คนก็ได้ ทำให้ โทนี่ตอบว่า ตำรวจอีกคนทำให้คิดไม่ออก 

รศ.ดร.สิริพรรณ กล่าวว่า จากบทเรียนครั้งนี้ พลังประชารัฐอาจเสนอ 3 รายชื่อ ตนคิดว่าหลายพรรคอาจจะหาคนมีประสบการณ์ทางเศรษฐกิจมาประดับพรรคไว้ โดยจะถูกเสนอหรือไม่อีกเรื่อง แต่จะเป็นแม่เหล็กในการดึงคะแนน คิดว่ามีตำรวจแน่ๆ ที่เป็นคนไว้วางใจ

โทนี่ ถอนหายใจไม่รู้จุดจบ 'ประยุทธ์' ลี้ภัยหรือไม่

ถามว่าจุดจบทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จะออกมาแบบไหน โทนี่ ระบุว่า ไม่ทราบเหมือนกัน พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.ประวิตร ไม่รักก็ต้องรักกัน เพราะ

ถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีโอกาสลี้ภัยหรือไม่ให้ออกจากประเทศ โทนี่บอกว่า เป็นคำถามที่ดีแต่ตอบยาก เพราะบ้านเราความเป็นธรรมนั้น มันหายาก ตนคิดว่า จากนั้น โทนี่ ถอนหายใจ พร้อมบอกว่า ไม่รู้ ไม่ตอบ แต่ถ้าจะต้องมาก็มาเช่าบ้าน ตนอยู่ได้ 

ถามว่าถ้ารัฐบาลฝั่งเราเป็นการรัฐประหารจะเกิดขึ้นไหม โทนี่ระบุว่า คงยากขึ้นเรื่อยๆ 10 กว่าปี รัฐประหาร 2 ครั้ง ครั้งนี้สอนบทเรียนให้ประชาชนว่า 8 ปี ช้ำทั้งประเทศและประชาชน ถ้ายังอยากจะยื้อ 2-3 ปีนั้น ตนไม่รู้ แม้จะเป็นผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ถ้าเขายิ่งอยู่นานยิ่งยื้อจะเป็นผลเสียต่อประชาชน แต่พรรคเพื่อไทยก็จะชนะง่ายขึ้น ยิ่งอยู่ยิ่งคะแนนตก คะแนนขึ้นไม่ได้ คนต้องการอนาคตมากกว่า

ถามว่าจะมีอภินิหารกฎหมายนับวาระของพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ตั้งแต่ปี 2562 รศ.ดร.สิริพรรณ กล่าวว่า ก็จะจบปี 2570 ใช่หรือไม่ อภินิหารก็เกิดได้หมด ไม่ว่าจะจบปี 2557 ปี 2562 อภินิหารกฎหมายเกิดขึ้นได้ ส่วนตัวมองว่าควรนับที่ 2557 ประเด็นนี้รัฐธรรมนูญมีหลักคือมีผลบังคับใช้ทันที สมมติโรงงานตั้งแต่ปี 2540 รัฐบาลออกกฎหมายให้ทุกโรงงานมีวิธีกำจัด PM 2.5 มีผลบังคับใช้ทันที แม้โรงงามจะตั้งปีไหนก็ตาม ดังนั้นต้องนับตั้งแต่ปี 2557 อย่าง โทนี่เป็นมา 5 ปีครึ่งก็จะเป็นได้เพียง 2-3 ปี กฎหมายมีผลบังคับใช้ทันที อภินิหารทางกฎหมายตีความแบบพิสดารได้

โทนี่บอกว่า ถ้าบอกว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ นับตั้งแต่ปี 2562 ตอนโหวตนายกฯหลังเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์จะเจออีกข้อหาหนึ่งไม่รายงานทรัพย์สินและหนี้สิน ถ้าไม่นับตั้งแต่ที่ผ่านมาแสดงว่าไม่ต่อเนื่อง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ต้องรายงานทรัพย์สิน ทำไมไม่รายงานทรัพย์สิน

แนะ 'ประยุทธ์' พอได้แล้ว สอนมวยตัวเองยังลงตำแหน่งก่อน

ผู้ดำเนินรายการบอกว่า ถ้านับแบบนี้ โทนี่จะเป็นนายกฯ ได้อีก 8 ปี ทำให้ โทนี่ระบุว่า 73 ปีแล้วเลี้ยงหลานแล้ว 

"คุณฉีกรัฐธรรมนูญมาเป็นนายกฯ ไม่ต้องคิดอะไรมาก วันนี้เอาหลักจริยธรรม ผมว่าพอเถอะ เยอะแล้ว ผมอายุ 57 ปียังถูกเตะลง แต่ท่านพอเถอะ อันนี้อายุ 67 ปีแล้วกลับไปเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานเถอะ"

นอกจากนี้ โทนี่ ยังระบุช่วงท้ายว่า ในวันที่ 10 ก.ย.นี้ แพทองธาร จะพูดเรื่องนโยบาย ที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งจะพูดภาพรวมกว้างๆ โดย แพทองธาร จะทำนโยบายให้คนชนชั้นกลาง ดังนั้นต้องเปิดโอกาสให้คนชั้นกลางพัฒนาตัวเองให้เป็นคนชั้นระดับสูงขึ้น ไม่ใช่ตกลง