ไม่พบผลการค้นหา
‘บิ๊นท์ สิรีธร’ สาวไทยคนแรกที่คว้ามงกุฏเวที มิสอินเตอร์เนชันแนล 2019 ที่ประเทศญี่ปุ่น เดินทางถึงไทยแล้ว แฟนๆ และครอบครัวแห่ต้อนรับหนาแน่น เผย ดีใจจนน้ำตาไหล ภูมิใจที่คว้ามงกุฎให้ประเทศไทย ก้าวต่อไปอยากทำงานในวงการบันเทิง แต่ก็จะไม่ทิ้งอาชีพเภสัชกร

21 พ.ย. เวลาประมาณ 18.00 น. ที่ อาคารผู้โดยสาร ชั้น 2 ประตู 9 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ‘บิ๊นท์ - สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์’ นางสาวไทย ประจำปี 2562 เดินทางกลับถึงประเทศไทยด้วยสายการบินไทย เที่ยวบิน ทีจี 643 หลังเสร็จสิ้นภารกิจเป็นตัวแทนประเทศไทยประกวดมิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2019 ที่ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

โดยสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย และสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทย ด้วยการได้ครองตำแหน่ง ‘มิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2019’ และดำรงตำแหน่งราชินีทวีปเอเชีย สร้างประวัติศาสตร์เป็นสาวไทยคนแรกที่คว้ามงกุฏมิกิโมโต้ มูลค่ากว่า 17 ล้านบาท บนเวทีประกวดนางงามระดับโลกแห่งนี้ ตั้งแต่ประเทศไทยส่งสาวงามเข้าร่วมประกวดมา 51 ปี

บิ๊นท์ นางสาวไทยบิ๊นท์ นางสาวไทย

บรรยากาศการต้อนรับเป็นไปด้วยความคึกคัก มี 'ภูมิรัตน์ เลิศวิศิษฎ์ชัย' ผู้ถือลิขสิทธิ์มิสอินเตอร์เนชั่นแนลไทยแลนด์ 'กฤติยา ก้อนทอง' รองผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายงานปฏิบัติการ 2) 'อนันต์ จันทรานุกูล' อุปนายกสมาคมศิษย์เก่าวชิราวุธ ในพระบรมราชูปถัมภ์ 'รุดิศฑัต ประภานันท์' กรรมการสมาคม และรองประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์ 'อดิสร สุดดี' ผู้จัดการ กองประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2562 'วันรัก ณ นคร' ผอ. บริษัท นาการา จำกัด 'พอลลี่-ปุณิกา กุลสุนทรรัตน์' รองอันดับ 2 มิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2014 คณะครูและนักเรียนโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) โรงเรียนที่บิ๊นท์ศึกษาในระดับมัธยม ร่วมต้อนรับพร้อมมอบช่อดอกไม้

ขณะเดียวกัน มีแฟนนางงามจำนวนมากต่างมาร่วมต้อนรับโดยรอบอาคารผู้โดยสาร เมื่อบิ๊นท์มาถึงมีการโบกธงชาติไทยพร้อมชูภาพ ส่งเสียงตะโกนเรียกชื่อดังไปทั่วบริเวณ ขณะที่ครอบครัวของบิ๊นท์ 'ยุทธชัย ลีห์อร่ามวัฒน์' และ 'วิภา ติรณะประกิจ' พ่อแม่และน้องสาว ร่วมต้อนรับทั้งน้ำตาอย่างอบอุ่น

โดยเจ้าของตำแหน่งมิสอินเตอร์ฯ 2019 วัย 25 ปี สวมกอดหอมแก้มคุณพ่อคุณแม่ก่อนโบกมือทักทายแฟนนางงาม

บิ๊นท์ นางสาวไทยบิ๊นท์ นางสาวไทย

จากนั้นบิ๊นท์กล่าวเปิดใจและให้สัมภาษณ์โดยกล่าวขอบคุณสื่อมวลชน และแฟนคลับทุกคน พร้อมเล่าความรู้สึกวินาทีรับมงกุฏอีกครั้ง

"พอมาถึงแล้วมีคนมาต้อนรับก็ตื่นเต้นระดับหนึ่งแล้ว แต่พอเดินออกมาแล้วมาเจอคนเยอะๆ ใจบิ๊นท์เต้นแล้วน้ำตาจะไหลตลอดเลย คือปลื้มปริ่ม แล้วก็ตื้นตันมากๆ จริงๆ ค่ะ และเมื่อเห็นแฟนๆ ที่มาต้อนรับวันนี้ก็ขนลุกเลย เพราะว่าชีวิตจากเด็กธรรมดา เวลาไปไหนก็ไม่มีใครมารอ แต่พอวันนี้มีคนมารอคือ... โหน้ำตาจะไหล ตั้งแต่เดินก้าวแรก แต่ว่าดีใจมาก รู้สึกมีพลังมาก และรู้สึกภูมิใจว่าเราทำให้ประเทศไทยได้แล้ว เพราะบิ๊นท์เชื่อว่าแฟนๆ ชาวไทยก็รอมงกุฏจากเวทีนี้มานาน"

นอกจากจะมีเหล่าแฟนคลับนางงามมาแห่ต้อนรับแล้ว ครั้งนี้ยังเป็นครั้งแรกที่บิ๊นท์ได้พบกับครอบครัว รวมถึงคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งบรรยากาศอันอบอุ่นครั้งนี้ทำให้คุณพ่อของบิ๊นท์ ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เมื่อได้โอบกอดลูกสาวของตัวเอง

"คุณพ่อเซ็นซิทีฟมาก เพราะว่าคุณพ่อไม่ได้เจอบิ๊นท์มาประมาณร่วม 2 เดือนแล้ว เพราะว่าติดภารกิจตั้งแต่เวทีนางงามกรุงเทพฯ จนนางสาวไทย จนเวทีใหญ่มิสอินเตอร์เนชันแนล วันนี้ปะป๊าก็เลยมีโมเมนต์เซ็นซิทีฟ ซึ่งตัวบิ๊นท์เองก็เซ็นซิทีฟเหมือนกัน พอเห็นท่านร้องไห้แล้วน้ำตาจะไหลตาม

และช่วงที่บิ๊นท์กำลังอยู่ระหว่างประกวด ก็จะไม่ค่อยได้โทรหาครอบครัว เพราะว่าบิ๊นท์เป็นคนเซ็นซิทีฟ ถ้าโทรหาก็จะคิดถึงมาก แล้วอาจจะทำให้หลุดโฟกัสไปจากการประกวด ก็เลยเลือกที่จะไม่โทร แล้วรอกลับมาเจอทีเดียว ซึ่งตอนแรกก็คิดว่าเราอาจจะไม่ได้ที่ 1 อีกไม่นานก็จะได้กลับมาสู่อ้อมอกพ่อกับแม่แล้ว ได้มีเวลาให้ท่านแล้ว แต่พอมันได้มันก็เป็นอีกความรู้สึกหนึ่งที่ดีใจ แต่ท่านก็ไม่คิดว่าเราจะไปไกลขนาดนั้น"

บิ๊นท์ นางสาวไทยบิ๊นท์ นางสาวไทย

นอกจากนี้ สื่อมวลชนยังได้ถามถึงวินาทีตอนประกาศรางวัล ที่สีหน้าอึ้งของบิ๊นท์เป็นที่จดจำของทุกคน เธอบอกว่า ตอนอยู่บนเวที ยืนอยู่ข้างมิสเวียดนาม ก็ไม่คิดว่าจะเป็นตัวเอง แต่เมื่อได้ยินคำว่าไทยแลนด์ก็รู้สึกช็อก ติ้วๆ ในหัว คิดอะไรไม่ออก มาตั้งสติได้ตอนที่เพื่อนๆ มาสวมกอด ร่วมแสดงความยินดี ซึ่งบิ๊นท์ได้เผยถึงเหตุผลที่เธอไม่ได้คิดไว้ว่าตัวเองจะได้ที่ 1

"เพราะบิ๊นท์เป็นคนกำหนดเป้าหมายไว้ไกลๆ ว่าอยากได้ที่ 1 แต่ว่าไม่ได้หวังว่าจะต้องได้ พอเราอยากได้ แต่ว่าไม่ได้หวัง เราก็แค่ทำดีที่สุด แต่ที่เราไม่หวังเพราะว่ากองประกวดที่มิสอินเตอร์เนชันแนลเขาเก็บทุกอย่างเงียบมาก คือเขาไม่บอก ไม่หลุดอะไรมาเลย แล้วมารู้พร้อมกันวันสุดท้ายจริงๆ ว่าไทยแลนด์ชนะ หน้าของบิ๊นท์ตอนที่ประกาศรางวัลก็เลยเป็นอย่างที่ทุกคนเห็น เรียกว่าเป็นม้ามืดได้ เพราะว่าคนที่เป็นนางงามตัวเก็งเยอะมาก และปีนี้บิ๊นท์คิดว่าผู้เข้าแข่งขันสวย และมีความสามารถมากๆ"

บิ๊นท์ นางสาวไทยบิ๊นท์ นางสาวไทย

สาวงามเจ้าของมงกุฎแรกของประเทศไทย เวทีมิสอินเตอร์เนชันแนล ยังกล่าวอีกว่า เธอไม่ได้ท้อกับคำกดดันต่างๆ เพราะส่วนตัวเป็นคนที่ทิ้งเร็วมาก รู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้มันจะทำให้เราไม่พัฒนา แล้วมันจะทำให้เราทำเป้าหมายไม่สำเร็จ ก็เลยทิ้งไปก่อน แต่ว่าเรามองนะ และเอามาปรับ และวันนี้มันก็เป็นบทพิสูจน์หนึ่งที่ทำให้ทุกคนเห็นว่าเราทำได้แล้ว "ไม่ใช่ความรู้สึกสะใจนะ แต่เป็นความรู้สึกว่า เฮ้ย ภูมิใจในตัวฉันสิ ฉันทำให้ทุกคนเห็นได้แล้วนะ คนไทยดีใจได้แล้วนะ”

ขณะที่ ภารกิจหลังจากได้รับตำแหน่งหลักๆ ก็จะมีงานด้านการกุศล และการไปออกรายการต่างๆ ส่วนโครงการที่อยากสานต่อ บิ๊นท์เผยว่า จากการที่บิ๊นท์ได้มายืนตรงนี้ รู้สึกว่าสิ่งที่ดีที่สุดคือคำพูด และการเป็นกระบอกเสียง และตัวบิ๊นท์เองเป็นเภสัชฯ ก็จะมีความสนใจในเรื่องของสุขภาพของคนไทย

ตอนช่วงเวลาที่บิ๊นท์ไปเก็บตัวที่ญี่ปุ่น และมีโอกาสได้ไปดูขั้นตอนการเก็บไข่มุก ที่ MIKIMOTO Pearl Island แล้วคนที่ดำน้ำไปเก็บไข่มุกอายุ 60 ปีขึ้นไปทุกคน ที่สามารถดำน้ำอุณหภูมิต่ำ ประมาณ 10 องศาได้ ซึ่งบิ๊นท์ก็ถามเขาว่าเขาทำยังไง ซึ่งบิ๊นท์คิดว่าในส่วนนี้ การกิน การออกกำลังกายมีส่วนสำคัญมากๆ ซึ่งการกินของประเทศญี่ปุ่นแตกต่างจากประเทศไทยเยอะมาก เพราะอาหารบ้านเราบางอย่างยังมีส่วนประกอบที่เป็นน้ำตาล หรือ คอลเลสเตอร์รอลสูง ซึ่งบิ๊นท์คิดว่าการรับประทานอาหารของคนญี่ปุ่นน่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประเทศไทย ซึ่งบิ๊นท์ก็อยากจะสานต่อโครงการลักษณะนี้ที่จะทำให้สุขภาพของคนไทยแข็งแรงและยั่งยืนได้

ส่วนภารกิจกองที่ญี่ปุ่น ทางกองจะทยอยแจ้งเรื่อยๆ แต่ภารกิจหลักก็คือการมอบมงกุฏให้กับผู้ได้รับรางวัลมิสอินเตอร์เนชันแนลประเทศต่างๆ ซึ่งบิ๊นท์เผยว่า เป็นเรื่องที่ดีที่จะได้ไปรับวัฒนธรรมจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก และคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับตำแหน่งนี้


บิ๊นท์ นางสาวไทยบิ๊นท์ นางสาวไทย


สำหรับการวางแผนชีวิต อยากลองทำงานในวงการบันเทิง ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายความฝันของเธอ ขณะที่วิชาชีพเภสัชกรก็ยังไม่ทิ้ง คิดว่าทำทั้งสองอย่างไปพร้อมกันได้ และอีกเรื่องหนึ่งคือเรียนภาษาอีกหลายๆ ภาษา เพราะต้องการสื่อสารได้อย่างคล่องแคล่วหลากหลาย เพื่อให้เหมาะกับตำแหน่งที่ต้องปฏิบัติภารกิจ

อย่างไรก็ตาม กองประกวดนางสาวไทย จะจัดงานต้อนรับน้องบิ๊นท์ HOME COMING BINTS SIREETHORN ในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย. เวลา 16.30 น.โดยเชิญชวนชาวไทยแต่งกายด้วยชุดไทยย้อนยุค ไปร่วมต้อนรับขบวนพาเหรดด้วยรถเปิดประทุน ที่จะมาถึงลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 สวนลุมพินี เพื่อสักการะพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 และพบปะประชาชนได้แสดงความยินดีอย่างใกล้ชิดภายในงานกาชาด

บิ๊นท์ นางสาวไทยบิ๊นท์ นางสาวไทย

'บิ๊นท์ - สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์' ปัจจุบันมีอายุ 25 ปี เป็นชาวกรุงเทพมหานคร มีส่วนสูง 175 เซนติเมตร น้ำหนัก 55 กิโลกรัม เธอเป็นลูกสาวคนโตของครอบครัว และมีน้องสาว 1 คน จบการศึกษาปริญญาตรีจากคณะเภสัชศาสตร์ สาขาเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ปัจจุบันประกอบอาชีพเป็นเภสัชกรการตลาด ด้านยาคุ้มกันบำบัด

เริ่มประกวดนางงามครั้งแรก ด้วยการสมัครประกวดนางสาวไทย เมื่อเดือนกันยายนปี 2562 ได้รับตำแหน่งนางสาวไทย กรุงเทพมหานคร และได้ครองตำแหน่งนางสาวไทย ประจำปี 2562 ต่อด้วยการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการนางงาม เมื่อชนะใจกรรมการ คว้าตำแหน่งมิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2019 มาครองได้สำเร็จ พร้อมด้วยรางวัลพิเศษ ราชินีทวีปเอเชีย 2019

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :