ไม่พบผลการค้นหา
‘พิชิต’ ตัวแทนเครือข่าย คปท. ยื่น หนังสือถึง ‘เศรษฐา’ ชู 3 ข้อ เรียกร้องนำตัว ‘ทักษิณ’ กลับเข้าเรือนจำ ชี้ให้คำสัญญาปกครองด้วยหลักนิติธรรม กระบวนการยุติธรรมต้องเท่าเทียมกัน

วันที่ 13 ก.ย. ที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) เข้ายื่นหนังสือต่อ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเพื่อเร่งสร้างความยุติธรรม ด้วยการนำตัว ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าเรือนจำ โดย สมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐฒนตรี เป็นผู้มารับหนังสือแทน

พิชิต ไชยมงคล ตัวแทนเครือข่าย คปท. กล่าวว่า หลังจากที่ ทักษิณ หนีคดีไปกว่า 15 ปี และเมื่อวันที่ 22 ส.ค. จนถึงวันนี้ผ่านไปกว่า 23 วัน ปรากฎว่า ทักษิณ อ้างว่าป่วย และมารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจนั้น ประชาชนเกิดความสงสัยว่าไม่ได้ป่วยจริง เนื่องจากสงสัยในพฤติกรรมของผู้ที่เกี่ยวข้อง ที่พยายามช่วยกันปกปิดอาการป่วยที่แท้จริง และใช้สิทธิของผู้ต้องขังมาปิดปากประชาชนคนไทย ทั้งมีลักษณะใช้เอกสิทธิ์พิเศษที่มอบให้เฉพาะ โดยอ้างกฎระเบียบของราชทัณฑ์ที่ผู้ต้องขังอื่นไม่สามารถใช้ใด้ ในการเอื้ออำนวยประ โยชน์แก่ ทักษิณเพียงคนเดียว

พิชิต กล่าวว่า ทั้งนี้ภายหลังที่พรรคเพื่อไทยสามารถจัดตั้งรัฐบาลผสมหลายพรรค ก็ประกาศเป็นรัฐบาลที่จะสร้าง ความสมานฉันท์ปรองดองของคนในชาติ ให้เป็นวาระเร่งด่วน แต่จะสร้างความสมานฉันท์ได้อย่างแท้จริง ประชาชนควร ได้รับความเท่าเทียมกันในกระบวนการยุติธรรมเสียก่อน อีกทั้งรัฐบาลได้ประกาศในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาว่าจะเร่งฟื้นฟูหลักนิติธรรมของประเทศเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการบังคับใช้กฎหมายให้เกิดความเท่าเทียมแก่ประชาชนทุกคน ดังนั้นเครือข่าย คปท. จึงขอเรียกร้องให้ 

1.เร่งดำเนินการสร้างความยุติธรรมและทำให้กฎหมายมีความเท่าเทียมกันด้วยการสั่งการ ให้ นำตัวนักโทษ

เด็ดขาด คือ ทักษิน กลับเข้าเรือนจำตามคำพิพากษาอันเป็นที่สุด และการขออภัยโทษที่ยังคงโทษต้องขัง เด็ดขาดอีกเป็นเวลา 1 ปี

2.เร่งนำตัวผู้ต้องหาการเมืองอื่นที่หลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศมารับโทษตามกระบวนการยุติธรรมไทย

3. ให้ดำเนินการ ไต่สวน ตรวจสอบ และลงโทษ ข้าราชการที่เกี่ยวข้องในการเอื้อประโยชน์ ในลักษณะเร่งรีบผิดสังเกตุ ในการร่วมกันนำตัว ทักษิณ ออกมาจากเรือนจำ เพื่อนำตัวมาไว้ที่ โรงพยาบาลตำรวจ ในวันที่ 23 ส.ค. ที่มีลักษณะการสมคบคิดหรือประพฤติมิชอบตามระเบียบราชทัณฑ์

ก่อนจะทิ้งท้ายว่า เศรษฐา​ จะปฏิเสธความรับผิดชอบนี้ไม่ได้แม้ความสำคัญระหว่าง ทักษิณ และพรรคเพื่อไทยจะมีความสนิทติดเชื้อกัน แต่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แน่นอนว่ารัฐบาลจะบริหารประเทศได้ตามที่ เศรษฐา​ ประกาศ ยึดหลักนิติ​ รัฐนิติธรรม กระบวนการยุติธรรมต้องได้รับความเท่าเทียมกันในสังคม

เมื่อถามว่าหาก​ ทักษิณ​ รักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจจนครบอายุโทษ จะเกิดความวุ่นวายหรือไม่ พิชิต​ ก​​ล่าวว่า สังคมจะต้องตรวจสอบและคปท.จะเคลื่อนไหวในเรื่องนี้อยู่ตลอด ขณะเดียวกันอยากเรียกร้องให้ ถ้าจะโรงพยาบาลตำรวจ ออกมาชี้แจงอาการที่แท้จริงของทักษิณ ว่าป่วยหนักจริงหรือไม่ ยอมรับว่าเมื่อป่วยก็ต้องได้รับสิทธิ์การรักษาพยาบาล แต่กฎระเบียบของราชทัณฑ์มีอยู่แล้วหากป่วยก็ต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลราช