เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 25 มี.ค. ที่วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร จ.พิจิตร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดเวทีปราศรัย นําโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.,นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค ,นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค,นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค,ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรค พปชร.,นายวราเทพ รัตนากร กรรมการฝ่ายนโยบาย นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. และนาย ไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร โดยพรรคพลังประชารัฐ ได้มีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร จ.พิจิตร ประกอบไปด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์พรชัย อินทร์สุข ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พิจิตรเขต 1 นางณริยา บุญเสรฐ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พิจิตร เขต 2 และนายเอกวิชญ์ เรืองมาลัย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พิจิตรเขต 3 ทั้งนี้ ท่ามกลางสภาพอากาศบริเวณเวทีปราศรัยมีอุณหภูมิร้อนกว่า 38 องศา แต่บรรยากาศก็เป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนมาฟังการปราศรัยอย่างเนืองแน่นกว่า 10,000 คน
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐส่งคนมีคุณภาพครบทั้ง 3 เขต ไว้ในอ้อมอก อ้อมใจของทุกคนและขอฝากนโยบายที่พรรคทำเพื่อประชาชนชาวพิจิตร ตนรู้สึกอบอุ่นเป็นอย่างมากที่ได้มาอยู่ท่ามกลางชาวจังหวัดพิจิตร ด้วย พวกเราพร้อมแล้วที่จะมาทำงานให้กับชาวพิจิตร โดยได้คัดสรรคนดี คนเก่งที่จะมาเป็นตัวแทนของประชาชน เพื่อมาพัฒนาแก้ไขปัญหาให้กับชาวพิจิตรทุกคน ตนเชื่อว่าทุกคนย่อมอยากเห็นจังหวัดพิจิตรเจริญขึ้น ดังนั้น จึงต้องเลือกพรรคพลังประชารัฐ และผู้สมัครทั้ง 3 คนให้มาทำงานเพื่อทุกคนที่นี่
"พรรคพลังประชารัฐ คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง เพราะฉะนั้นนโยบายทุกข้อของเราทำเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ไม่ว่าจะเป็นโครงการบัตรประชารัฐการดูแลผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ รวมถึงการพัฒนาเศรษฐกิจรากหญ้า ให้มีความเท่าเทียม เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในสังคม"
พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาตนได้แก้ปัญหาปัญหาน้ำแล้ง น้ำท่วม จะเห็นได้ว่าไม่มีปัญหาภัยแล้งอีกเลยตลอด 4 ปีที่ผ่านมา มีเรา ไม่มีแล้ง อีกต่อไป และเมื่อมีเรา ต้องมีที่ทำกิน ให้กับพี่น้องประชาชนทุกคน เราจะดูแลทุกคนอย่างต่อเนื่อง 4 ปีที่ผ่านมา เราก็ดูแลมาแล้ว แต่ยังไม่ครบทั้ง 77 จังหวัด เราจึงกลับเข้ามาสานต่อให้ครบทั่วประเทศให้ได้ ในส่วนปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ อาชญากรรมออนไลน์ ที่เป็นอันตรายต่อประเทศ ต้องแก้ปัญหาได้ทันที
"เราขออาสานำความรัก ความสามัคคีมาสู่ประเทศชาติหมดเวลาแล้วที่คนไทยจะมาทะเลาะกันเอง ต้องจับมือกัน นำประเทศไปสู่ก้าวหน้า เพื่อความสงบของคนไทยทุกคน ฝากกับทุกคนว่า ถ้าอยากให้ประเทศมีความรัก สงบสุข สันติภาพเกิดขึ้น และมีความเป็นหนึ่งเดียวต้องเลือกพรรคพลังประขารัฐเท่านั้น"
ทั้งนี้ ว่าที่ผู้สมัครได้สลับกันขึ้นปราศรัย โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์พรชัย อินทร์สุข ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พิจิตรเขต 1 กล่าวปราศรัยว่า วันนี้ได้รับเกียรติจากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ขวัญใจชาวพิจิตร เดินทางมาร่วมพูดคุยกับพวกเรา จากนโยบายของพรรคพลังประชารัฐที่จะทำให้คนไทยมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยเฉพาะปัญหาเรื่องภัยแล้งหรือน้ำท่วม จะไม่เกิดขึ้นอีกถ้าเรามีนายกรัฐมนตรีชื่อ พลเอกประวิตร เราจะมีน้ำใช้เพื่อการเกษตรกรรมตลอดทั้งปี ตนเชื่อเลยว่า จากนี้ไปคนพิจิตรจะมีน้ำเพื่อทำนา สร้างรายได้ตลอดทั้งปี
ด้านณริยา บุญเสรฐ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พิจิตร เขต 2 กล่าวปราศรัยว่า ชาวพิจิตรอาจจะเคยเห็นตนมีการเปิดตัวกับอีกพรรคการเมืองหนึ่ง ซึ่งทุกคนคงสงสัยว่าทำไมตนถึงย้ายมาลงรับสมัครเลือกตั้งกับพรรคพลังประชารัฐ ก็เพราะพรรคพลังประชารัฐจะก้าวข้ามความขัดแย้ง รวมถึงพรรคยังมีนโยบายดี ๆ เพื่อคนไทยทั้งประเทศไม่ว่าจะเป็นบัตรประชารัฐ 700 บาท รวมถึงนโยบายดูแลผู้สูงอายุ 345 678 ที่จะมีสวัสดิการดูแลผู้สูงอายุ ตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ตามลำดับขั้นบันได ทั้งนี้ ตนขอโอกาสจากชาวพิจิตร ขอให้ ส.ส.พิจิตรทั้ง 3 เขตเป็นผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ
ด้านนายเอกวิชญ์ เรืองมาลัย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พิจิตร เขต 3 กล่าวปราศรัยว่า ขอขอบคุณพี่น้องชาวพิจิตรที่มาต้อนรับผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐรวมถึงคู่กันหมักทุกคนอย่างอบอุ่น วันนี้ถ้าตนได้รับโอกาสจากชาวพิจิตรเขตสาม ตนสัญญาว่าจะทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถให้คุ้มค่ากับภาษีของประชาชนทุกคนและตอบแทนความไว้วางใจด้วยการทำงานเต็ม 100% เพื่อประชาชน
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวปราศรัย ว่า ตนอยู่พรรคการเมืองมาหลายพรรค แต่พรรคที่มีหัวหน้าอย่าง พล.อ.ประวิตร ทำให้ตนสามารถพูดได้เต็มปากว่า ท่านคือผู้นำเป็นผู้ใหญ่ใจดี วันนี้เป็นโอกาสดีของพี่น้องชาวพิจิตรที่ท่านตั้งใจมาพบทุกคนที่นี่ทั้ง 3 เขต 12 อำเภอ เมื่อการเลือกตั้งปี 62 ผู้สมัครของพลังประชารัฐทั้ง 3 เขตได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องที่นี่ วันนี้ ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐที่สร้างมากับมือได้ย้ายบ้านออกไป เราก็ไม่ว่ากันแซึ่งเรามั่นใจว่าในการเลือกตั้งปีนี้เราได้ว่าที่ผู้สมัครที่มีคุณภาพมาเป็นตัวแทนชาวพิจิตรอีกครั้ง ซึ่งเราหวังว่า ทุกคนจะกาให้เราทั้งผู้สมัครและพรรคพลังประชารัฐ
"พรรคพลังประชารัฐประกาศชัดเจนว่า เราจะก้าวข้ามความขัดแย้ง บรรยากาศที่แตกแยก ไม่ใช่เรื่องสนุก หมดเวลาแล้วที่คนไทยจะทะเลาะกัน เพราะฉะนั้นถ้าใครอยากได้ประเทศที่สงบสุขขอให้เลือกพรรคพลังประชารัฐ"
ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวต่อถึง นโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ที่จะมีการช่วยเหลือชาวนาที่ถือเป็นกระดูกสันหลังของประเทศ ทำนามาด้วยความเหนื่อยล้า แต่พอถึงเวลาฤดูขายข้าวข้าว ราคากลับตกต่ำทุกปี