เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานประชุมหารือประเด็นแนวทางในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก pm2.5 และมอบนโยบายในการแก้ไขปัญหา พร้อมด้วยพลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

ทันทีที่เดินทางมาถึงนายกรัฐมนตรีได้เข้าไปทักทายกับผู้สูงอายุ จากกลุ่มชมรมอาสาสมัครสาธารณสุข จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นเช่นเคยเหมือนทุกครั้ง ที่นายกรัฐมนตรีจะเข้าไปสอบถามประชาชนว่า รอนานไหม ขณะที่กลุ่มอสมท. ที่มาต้อนรับ ขอจับมือนายกรัฐมนตรีซึ่งหลังจากได้จับมือบอกว่ามือนายกรัฐมนตรีนิ่มมาก 

จากนั้นนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ตัวแทนผู้ว่าราชการฯ จากกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ 11 จังหวัด ได้กล่าวต้อนรับ นายกรัฐมนตรี และคณะ และรับฟังรายงานการสรุปจากนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ โดยสาเหตุสำคัญของการเกิดฝุ่น pm2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือ เกิดจาก 3 ปัจจัยสำคัญคือ ไฟป่า, การเผาเศษวัสดุการเกษตร และปัญหาหมอกควันข้ามแดนจากประเทศเพื่อนบ้าน

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ฟังรายงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่น p.m2.5 อย่างละเอียดและตั้งใจจากทุกคน ซึ่งในการรายงานครั้งนี้มีหน่วยงานและภาครัฐกล่าวรายงานปัญหาให้นายกรัฐมนตรีฟัง 8 หน่วยงาน-ภาคประชาสังคม ซึ่งถือเป็นการรับฟังรายงานที่เยอะที่สุดครั้งหนึ่งตั้งแต่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ โดยในช่วงการรายงาน นายกรัฐมนตรีได้สอบถามเจาะลึกประเด็นต่างๆกับผู้ที่กล่าวรายงานเป็นระยะ เพื่อทำความเข้าใจรายละเอียดเพิ่มเติม จากที่ได้มีการกล่าวรายงาน

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้ปล่อยขบวนคาราวานปฏิบัติการป้องกัน และแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก pm2.5 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่

หลังฟังรายงาน ปัญหาจบ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การประชุมวันนี้เป็นสัญญาณที่ดีที่สุดที่จะมาเริ่มต้นพูดพูดถึงการแก้ปัญหาฝุ่นควันโดยเห็นแววตาของคนที่มานำเสนอวันนี้เป็นคนที่มีความจริงใจและรับทราบถึงปัญหานี้ดีอย่างถ่องแท้และอยากให้ปัญหานี้ลดน้อยลงไปจะบ่นไปก็ลำบาก เราอยู่กับความเป็นจริงจะดีกว่า 

ส่วนปัญหาเรื่องฝุ่นควัน p.m2.5 ขอแบ่งปัญหานี้เป็น3ส่วนคือปัญหาจากรถยนต์ท่อไอเสียเป็นองค์ประกอบอันนึงแต่ก็ไม่ได้ใหญ่มากเชื่อว่าโลกเราเปลี่ยนไปเยอะการใช้รถยนต์ที่มีสันดาบก็ลดน้อยลงไปและใช้รถอีวีปัจจุบันนี้ ได้ใช้เกิน 5% ของกำลังผลิต เมื่อคืนมาถึงที่นี่ก็ได้พาบริษัทเทสล่าที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ของโลกทีมงานพยายามเชื้อเชิญให้มาตั้งโรงงานที่นี่เพื่อจะมีแหล่งผลิตที่ดีและส่งออกไปทั่วโลกถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่ประเทศไทยให้ความสนใจกับเรื่องนี้ และในอนาคตไม่แน่ใจว่าในระยะไกลหรือใกล้นี้การใช้รถยนต์อีวีก็จะเยอะขึ้นทำให้P.M2.5 ที่เกิดจากรถยนต์น้อยลง

ส่วนประเด็นที่สองคือเผาป่าและมีไฟป่าเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญมากแต่ต้องกลับไปพูดถึงจุดเริ่มต้นของการเกิดคือปัญหาเศรษฐกิจหากซังข้าวโพดหรือต้อข้าวมีคนรับซื้อประชาชนก็คงไม่ใช้การเผาเชื่อว่าคงไม่มีใครอยากทำ ตนเองก็ตระหนักดีกับปัญหานี้แต่ค่าใช้จ่ายที่สูง จากการกำจัดซากพืช วันนี้ได้ฟังหลายคนที่นำเสนอพูดถึงการหาแหล่งเงินทุนเพื่อจะมาซื้อเครื่องมือในการกำจัดก็จะเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนที่สุด

นายกรัฐมนตรียังกล่าวอีกว่าหากเศรษฐกิจที่ดีประชาชนก็คงไม่ต้องเผาป่า ช่วงท้ายนายกฯ ย้ำอีกว่า ยืนยันรัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับอากาศสะอาดเพราะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของสิทธิมนุษยชนเรื่องที่เราต้องได้ที่สุดคืออากาศซึ่งถือเป็นของฟรีหากรัฐบาลไม่ได้ให้ความสนใจและไม่ทำให้ดีขึ้นได้คิดว่าคงมีปัญหา และคิดว่าทุกคนที่นั่งอยู่ในนี้ตระหนักและเข้าใจดีว่ารัฐบาลนี้จะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก  

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เดินชมนิทรรศการและฟังการบรรยายจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาทิ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมป่าไม้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ความสนใจปัญหานี้เป็นพิเศษ และ ได้ปล่อยขบวนคาราวานปฏิบัติการป้องกัน และแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก pm2.5 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่