วันนี้ (27 กันยายน 2567) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเลี้ยงฉลองชัยมอบเงินรางวัลและแสดงความยินดีแก่นักกีฬา ผู้ฝึกสอน สมาคมกีฬา คณะเจ้าหน้าที่และบุคลากรกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 17 ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 28 สิงหาคม ถึง 8 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับคณะนักกีฬาทีมชาติไทยและเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมการแข่งขัน โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายอารัญ บุญชัย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) นายณัยณพ ภิรมย์ภักดี ประธานมูลนิธิคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และคณะนักกีฬา ผู้ฝึกสอน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักและอบอุ่น
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบเงินรางวัลในการแข่งขัน จำนวน 212,150,000 บาท โดยแบ่งเป็นเงินรางวัลนักกีฬาที่ได้รับเหรียญรางวัลจากการแข่งขัน จำนวน 25 ราย รวมเป็นเงิน 162,600,000 บาท ได้แก่ เหรียญทอง 6,000,000 บาท เหรียญเงิน 4,000,000 บาท และเหรียญทองแดง 2,500,000 บาท
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้มอบเงินรางวัลและของที่ระลึกแก่ผู้ฝึกสอนและสมาคมที่เข้าร่วมการแข่งขันฯ จำนวน 2 สมาคม ได้แก่ 1.สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ 2. สมาคมกีฬาคนพิการทางสมองแห่งประเทศไทย รวมเป็นเงิน 44,150,000 บาท และมอบเงินรางวัลพิเศษนักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันจำนวน 53 คน ๆ ละ 100,000 บาท และไกด์รันเนอร์ 2 คน ๆ ละ 50,000 บาท จาก 4 สมาคม รวมเป็นเงิน 5,400,000 บาท ทั้งนี้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่นักกีฬาทุกคน
จากนั้น นายกรัฐมนตรีทำพิธีโอนเงินแบบเรียลไทม์ให้แก่นักกีฬาที่ได้รับเงินรางวัลและสมาคมต่าง ๆ โดยการ สัมผัสมือลงบนแท่นพิธี
นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีในความสำเร็จของนักกีฬาพาราลิมปิกและทีมงานทุกคน ที่เป็น “ฮีโร่” ของคนไทย ผลงานการแข่งขันพาราลิมปิกครั้งนี้ที่ปารีส ถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับประเทศไทยด้วยผลงาน 6 เหรียญทอง 11 เหรียญเงิน และ 13 เหรียญทองแดง ถือเป็นอันดับที่ 21 ของโลก ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ติดตามดูการแข่งขันโดยตลอดและรู้สึกมีความภาคภูมิใจ ว่านักกีฬาต้องผ่านการฝึกฝน ต้องมีใจที่มุ่งมั่นทั้งตัวของนักกีฬาเองและทีม support ทุกคน ที่จะต้องผลักดันชัยชนะเหล่านี้ โดยเฉพาะชนะตนเอง เพื่อให้ไปสู่เป้าหมาย รู้สึกมีความภาคภูมิใจแทนนักกีฬาทุกคนและแทนคนไทยทุกคนกับความสำเร็จครั้งนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณนักกีฬาและผู้ฝึกสอนที่ทำงานอย่างหนัก ทุกคนคือความภาคภูมิใจของคนไทย ความสำเร็จครั้งนี้ ทุกคนต้องฝึกฝนอย่างหนักกว่าจะไปถึงเวทีโอลิมปิก ต้องใช้พลังกายและพลังใจ ใช้ความมุ่งมั่นตั้งใจในการฝึกซ้อมมาจนทุกวันนี้ โดยหวังว่าเงินสนับสนุนจะมีส่วนช่วยสร้างขวัญและกำลังใจในการฝึกซ้อม เพื่อสร้างผลงานในนามทีมชาติต่อไป ซึ่งความสำเร็จของทุกคนจะเป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญ ทำให้เกิดนักกีฬารุ่นใหม่อีกหลายคน ให้พวกเขามองเห็นโอกาส มองเห็นแบบอย่าง ว่าถ้าฝึกฝน พัฒนาตัวเอง มีวินัยมากพอ จะสามารถประสบความสำเร็จได้แบบทุกคนในที่นี้ การส่งต่อพลังจากรุ่นสู่รุ่นคือ สิ่งสำคัญที่จะทำให้วงการกีฬาไทยพัฒนาอย่างต่อเนื่อง