วันที่ 25 มี.ค. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลุกขึ้นชี้แจงหลัง นพ.พลเดช ปิ่นประทีป สว. อภิปรายพาดพิงการทำงานของชุดพญานาคราช กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์ในการจับยางพาราเถื่อนในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี โดยระบุว่า ตนต้องลุกขึ้นตอบ ถ้าไม่ตอบก็จะทำให้ประชาชนสงสัย โดยเรื่องยางพาราที่ต้องนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะบริเวณอำเภอสังขละบุรี ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลให้ความสนใจและเข้มงวดในเรื่องการป้องกันสินค้าเกษตรผิดกฎหมายจากต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักรไทย และก่อนหน้านี้ตนเคยประกาศแล้วว่าจะทำสงครามกับสินค้าเถื่อนทุกประเภท
ซึ่งตนชื่นชม สว.หลายคน และหลายคนก็เป็นครูบาอาจารย์ที่สั่งสอนตนมา หลายคนเป็นรุ่นพี่ที่เรียนสถาบันเดียวกันทั้ง 4 เหล่าทัพ ซึ่งหลายคนก็สอนตนมาว่าหากจะทำอะไรต้องเห็นประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นที่ตั้ง อย่าหลงมัวเมากับอำนาจวาสนา และทรัพย์สินเงินทอง ซึ่งเมื่อเรามีโอกาสควรทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติบ้านเมือง ซึ่งก่อนที่จะเข้ามาเป็น สว.ก็มีการร่วมทุกข์ร่วมสุขกับหลายคน แต่พอมาฟังนาย นพ.พลเดช พูดถึงความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี ทำให้ตนรู้สึกในทางไม่ค่อยจะดี ซึ่งท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่และเป็นอดีตนายแพทย์ กลับทิ้งท้ายคำพูดทิ่มตำตน และทราบว่าผู้ประกอบการที่มาร้องเรียนกับตนก็เป็นเครือญาติกัน ฉะนั้นการที่ท่านบอกว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยชุดพญานาคราชในการปราบปรามสินค้าเถื่อนมีการเรียกรับผลประโยชน์ ตนจึงมองว่าท่านก็เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ และอีกไม่กี่วันก็จะหมดหน้าที่สว.แล้ว ฉะนั้นขอให้ท่านช่วยชี้แจงว่าบุคคลใดที่ตนแต่งตั้งมีใครประพฤติตัวไม่ชอบเรียกรับผลประโยชน์ แต่อย่ามากล่าวหาแบบคลุมเครือขอให้ชัดเจน ซึ่งเมื่อท่านกล้าเปิดหน้าแล้วต้องพูดให้สุดว่ามันผู้นั้นคือใครที่เรียกรับผลประโยชน์ นอกจากนี้กองทัพบก กองบัญชาการทหารสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ได้ดำเนินการอย่างเข้มข้นโดยทำงานร่วมกับชุดพญานาคราชของกระทรวงเกษตรฯ ดังนั้นการที่ท่านกล่าวหาชุดของกระทรวงเกษตรฯตั้งด่านซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่เป็นชุดของกรมวิชาการเกษตรที่ตนลงไปดูเอง ให้ตรวจสอบป้องกันสินค้าเถื่อนเพราะสร้างความเสียหายให้กับวงการยางพาราเป็นอย่างมาก
ในช่วงท้าย ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า ชุดพญานาคราชทำงานอย่างแข็งขันมาโดยตลอด ซึ่งอาจกระทบกับผู้เสียประโยชน์ซึ่งไม่ใช่ประชาชน อาทิ พ่อค้าหรือนักธุรกิจหัวใส ที่ทำมาหากินบนความทุกข์ยากของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ อย่างไรก็ตามตนจะสืบหาข้อเท็จจริงว่าบริษัทที่ได้รับผลกระทบเป็นของใครและเครือญาติใครแล้วตนจะมานำเสนอให้ประชาชนรับทราบ โดยยืนยันว่า ชุดพญานาคราชทำงานโดยไม่มีผลประโยชน์ตอบแทน และดำเนินการบูรณาการร่วมกันกับหลายหน่วยงาน ฉะนั้นการที่จะมาปรักปรำกล่าวหาโดยไม่มีรายละเอียดตนว่ามันไม่ยุติธรรมกับคนที่ทำงาน
จากนั้น นพ.พลเดช ได้ลุกขึ้นตอบกลับว่า เวทีแห่งนี้เปิดเพื่อให้ สว.ติติงและตั้งคำถาม พร้อมขอบคุณรัฐมนตรีที่ลุกขึ้นมาตอบเพื่อให้กระจ่าง แต่จะกระจ่างแค่ไหนก็เป็นเรื่องของสังคมได้ติดตาม