พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงานนิทรรศการผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ ประจำปี 2568 (ครั้งที่ 54) เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 โดยมี นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายยู่สิน จินตภากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม นางจิรภา สินธุนาวา รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายโกมล พรมเพ็ง รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายสหการณ์ เพชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ คณะผู้บริหาร ประชาชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ อาคารอิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 9-10 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ขอเชิญชวนทุกท่านให้ได้ร่วมกันผลักดันงานราชทัณฑ์ไปสู่ความเป็นราชทัณฑ์สมัยใหม่ ราชทัณฑ์ที่ไม่ได้จำกัดภาพลักษณ์เพียงเป็นจุดรวมตัวของผู้กระทำผิดแต่คือจุดเริ่มต้นของโอกาสสำหรับผู้ที่เคยเลือกทางเดินผิด โดยมีบันได 4 ขั้น คือ
ขั้นที่ 1) ราชทัณฑ์เพื่อความปลอดภัยของชุมชนและสังคม ตรงจุดนี้เราเข้าใจตรงกันว่าสำหรับผู้กระทำผิดจำเป็นต้องเข้ามาทบทวนตัวเองในราชทัณฑ์สักพักเพื่อปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตนเองและเพื่อความสงบสุขของสังคมในภาพรวม
ขั้นที่ 2) ขั้นการฟื้นฟู บำบัด ศึกษาให้โอกาสและตอบแทนสังคม งานราชทัณฑ์สมัยใหม่ต้องมุ่งทำงานทางความคิดแบบองค์รวม ทั้งตัวผู้ต้องราชทัณฑ์ ครอบครัวผู้ต้องราชทัณฑ์ และสังคมภายนอก สำหรับตัวผู้ตองราชทัณฑ์ต้องระลึกและเข้าใจอยู่เสมอถึงคุณค่าของโอกาสใหม่ที่ได้รับจากสังคม และต้องตระหนักอยู่เสมอว่าต้องตอบแทนตามกำลังสามารถที่มีคืนแก่สังคมในทุกโอกาส ประเด็นถัดมาคือครอบครัว ผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ครอบครัวให้การสนับสนุนมีโอกาสประสบความสำเร็จในการกลับตัวเป็นกำลังสำคัญของสังคมสูงถึงเกือบ 4 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ขาดการสนับสนุนจากครอบครัว ปัจจัยสำคัญหนึ่งคือการโอบอุ้มจากสังคมที่มีต่ออดีตผู้กระทำผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้การสนับสนุนปัจจัยทางเศรษฐกิจ การจ้างงานในมิติต่างๆ และมิติอื่นๆอย่างเป็นรูปธรรม เมื่อมีการสนับสนุนปัจจัยทางเศรษฐกิจ เมื่อสามารถเป็นเสาหลักดูแลครอบครัวการกระทำผิดซ้ำก็ลดลง ซึ่งสิงคโปร์สามารถลดอัตราการกระทำผิดซ้ำจาก 44% ลดลงเหลือ 21% ในปัจจุบัน
ขั้นที่ 3) หนึ่งผู้ต้องราชทัณฑ์หนึ่งซอฟพาวเวอร์ สำหรับผู้กระทำผิดทุกคนมักมีอย่างน้อยหนึ่งอย่างที่เขาทำได้ดี ต้องดันเอาศักยภาพ พัฒนาสร้างสรรค์พลังซอฟพาวเวอร์ เช่น เรื่องอาหาร การออกแบบแฟชั่น หรือศิลปะการป้องกันตัว เป็นต้น งานราชทัณฑ์จำเป็นต้องค้นหาและให้การสนับสนุนต่อยอดในศักยภาพตรงนี้เพื่อให้การกลับคืนสู่สังคมของอดีตผู้กระทำผิดกลับไปอย่างมีศักดิ์ศรี อย่างที่เรายึดหลักมาโดยตลอดคือไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง อันเป็นหลักการสำคัญตามนโยบายของรัฐบาล
ขั้นที่ 4) ผลผลิตคนที่มีคุณภาพและผลิตภัณฑ์ผลผลิตที่มีคุณภาพ
การจัดแสดงในวันที่ 16 – 20 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ที่จัดแสดงและจำหน่ายภายในงานนี้ ล้วนเป็นผลผลิตจากความพยายาม ความมุ่งมั่น และศักยภาพของผู้ต้องขัง ที่ได้รับการฝึกฝนอย่างเข้มข้น ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จึงไม่เพียงแต่มีคุณภาพดี แต่ยังมีความงดงามในคุณภาพของคนหลังกำแพง เช่น คุณเสกสรรค์ สุขพิมาย หรือคุณเสก โลโซ ที่มีความโดดเด่นด้านดนตรี นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ผู้ต้องราชทัณฑ์ไม่เพียงแต่สามารถใช้งานได้จริงในราคาย่อมเยาเท่านั้น แต่รายได้จากการจำหน่ายยังถูกแบ่งปันเป็นเงินรางวัลให้แก่ผู้ต้องขังผู้ผลิต ซึ่งจะเป็นการสร้างแรงจูงใจและยกระดับคุณค่าทางจิตใจให้กับพวกเขาอย่างแท้จริง
งานนิทรรศการผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ในครั้งนี้ จึงไม่ใช่เพียงเวทีแสดงผลงาน แต่ยังเป็นพื้นที่แห่งความหวัง ที่สื่อสารถึงศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในผู้ต้องขัง ที่ไม่ใช่เพียงการฝึกฝนทักษะ หรือการผลิตสินค้า แต่เป็นการสร้างโอกาสใหม่ให้กับชีวิต โอกาสที่จะเริ่มต้น โอกาสที่จะกลายเป็นพลังสร้างสรรค์ของประเทศ โอกาสที่จะกลับคืนสู่สังคมอย่างมีศักดิ์ศรี ด้วยการยอมรับจากสังคม ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญของการคืนคนดีสู่สังคมอย่างยั่งยืน
ขอชื่นชมกรมราชทัณฑ์ที่ได้นำวิสัยทัศน์เชิงนโยบายมาสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านกิจกรรมที่จับต้องได้เช่นนี้ ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนพันธกิจของกรมราชทัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรพัฒนาเอกชน ตลอดจนสื่อมวลชน และประชาชนผู้ให้การสนับสนุนและเปิดใจยอมรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง และเชื่อมั่นว่าหากบุคคลเหล่านี้ได้รับโอกาส ได้รับความเข้าใจ และได้รับพื้นที่ในการแสดงศักยภาพอย่างเหมาะสม พวกเขาจะสามารถกลับมาเป็น “พลัง” ให้กับครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติได้อย่างแท้จริง ไม่หวนกลับไปกระทำความผิดซ้ำอีก
ทั้งนี้ ภายในงานได้จัดกิจกรรมเดินแบบแฟชั่นโชว์ "SOFT POWER แห่งราชทัณฑ์ ความหวังจากกำแพง" ผลงานการทอผ้า และการตัดเย็บของผู้ต้องราชทัณฑ์ ร่วมเดินโดยนายแบบและนางแบบรับเชิญกิตติมศักดิ์ ศิลปิน นักแสดง และบุคคลมีชื่อเสียงโดยการตัดเย็บจากฝีมือผู้ต้องขัง ชมการแสดงตนตรี โดยวงดนตรีผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ชนะเลิศการประกวดความสามารถพิเศษจากเรือนจำ/ทัณฑสถานทั่วประเทศ ได้แก่ เรือนจำกลางสมุทรปราการ เรือนจำกลางคลองไผ่ เรือนจำกลางขอนแก่น และการแสดงพิเศษจากวงดนตรีผู้ต้องราชทัณฑ์ ในโครงการ "TO BE NUMBER ONE" เรือนจำพิเศษมีนบุรี ร้องนำโดย เสก โลโซ ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้มีกำหนดจัดขึ้น ในระหว่างวันที่ 16 -20 กรกฎาคม 2568 ณ อาคารอิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 9-10 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี