ไม่พบผลการค้นหา
'เลขา ครป.' ค้านวิษณุ ดันแผนตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยสืบทอดอำนาจ ชี้ พรรคการเมืองอันดับหนึ่งต้องมีสิทธิ์จัดตั้งรัฐบาลก่อนตามหลักการประชาธิปไตย

เมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวว่า ฟังคำสัมภาษณ์ของวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ แล้วไม่สบายใจ ทำให้เห็นแผนการของรัฐบาลเสียงข้างน้อย เหมือนรองวิษณุตั้งใจเปิดเผยแผนการของ พล.อ.ประยุทธ์ และพรรครวมไทยสร้างชาติ

ผมไม่เห็นด้วยกับความเห็นของวิษณุ เครืองาม เพราะหากพรรคเสียงข้างน้อยรวมกันจัดตั้งรัฐบาลโดยให้เสียง ส.ว.สนับสนุน ผิดหลักการประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา โดยหวังว่าหลังจากนั้นค่อยหาเสียงเพิ่ม หรือรอยุบพรรคการเมืองอื่นตามยุทธศาสตร์เลือกตั้ง 62 เป็นการเมืองแบบเก่าที่สร้างความขัดแย้งในระบอบประชาธิปไตย

"พรรคการเมืองที่ได้ชนะเลือกได้ได้เสียง ส.ส.มากเป็นอันดับ 1 ต้องเป็นผู้นำจัดตั้งรัฐบาลตามเจตจำนงของประชาชน ไม่ใช่พรรคเสียงข้างน้อยกดดันพรรคอื่นโดยใช้เสียง ส.ว. หากพรรคอันดับหนึ่งไม่สามารถหาเสียงเกินครึ่งนึงของสภาผู้แทนราษฎรได้ ถึงจะเป็นสิทธิ์ของพรรคอันดับ 2 ในการจัดตั้งรัฐบาลถ้าหากรวมเสียงเกินกึ่งหนึ่งได้" เมธากล่าว

การที่วิษณุ คิดว่าถ้าหนีไม่พ้น จำเป็นต้องตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ซึ่งจะกลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากเอง ทำให้เห็นยุทธศาสตร์ของ พล.อ.ประยุทธ์ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ตอนนี้ก็คือ ต้องการรวมเสียงพรรคร่วมรัฐบาลเดิมซึ่งคาดว่าจะได้ประมาณ 200 เสียง แต่อยากจัดตั้งรัฐบาลต่อทั้งที่เสียงไม่ถึงครึ่งหนึ่ง โดยใช้เกมอำนาจการเมืองล็อบบี้ผ่านเสียง ส.ว. เพราะหลังเลือกตั้งจะมีการเลือกประธานสภาก่อน แล้วจึงค่อยเลือกนายกรัฐมนตรี โดยใช้เสียง ส.ว.หนุน หลังจากนั้นจึงดึงพรรคการเมืองต่างๆ เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล 

ถ้าเป็นไปตามนี้เท่ากับเป็นการล้มล้างเจตนารมณ์ของประชาชน ทำให้การเลือกตั้งเป็นเพียงละครอำนาจ รัฐบาลจะขาดความชอบธรรมในที่สุด และหากมีการยุบพรรคการเมืองหลังการเลือกตั้ง บ้านเมืองจะวุ่นวายอย่างหนักเพราะกลไกประชาธิปไตยถูกทำลายย่อยยับ

เมธา กล่าวว่า ผมอยากเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมืองร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากให้ได้เกิน 376 เสียง เพื่อไม่เหลือโอกาสให้ตัวแทนกองทัพสืบทอดอำนาจต่อไปโดยใช้เสียง ส.ว. โดยพรรคร่วมฝ่ายค้านทั้งหมดในปัจจุบันอาจได้ประมาณ 300 เสียง จำเป็นจะต้องเชิญพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง คือพรรคภูมิใจไทย หรือไม่ก็พรรคประชาธิปัตย์ ลอยแพพรรคทหาร 2 พรรคที่มีผู้นำรัฐประหารเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ถึงจะทำให้การเมืองไทยไปต่อได้ ประชาชนรอรัฐบาลใหม่มาแก้ไขเศรษฐกิจที่ผุพัง