ไม่พบผลการค้นหา
นายกฯ ยันไม่นิ่งนอนใจ กทม.-ปริมณฑล PM 2.5 พุ่งไม่หยุด สั่งการหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งแก้ไข พร้อมเจรจาเพื่อนบ้านลดเผาซากพืชผลเกษตร ยื่นคำขาดผู้ประกอบการไทยต้องเสียภาษีกำจัดซาก

เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ที่เกินค่ามาตรฐานในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ว่า ตนทราบดีและก็เป็นห่วงได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาสั่งการว่าจะทำอย่างไรต่อไป ซึ่งปัญหานี้ก็เกิดขึ้นทุกปีเราไม่ได้นิ่งนอนใจ ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้มีการคิกออฟ รณรงค์หยุดเผาป่า แต่ก็ต้องเข้าใจว่าช่วงเวลานี้มีปัญหา PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานแต่ก็ย้ำว่าเราไม่ได้นิ่งนอนใจจะหาวิธีการจัดการต่อไป 

เมื่อถามว่า ปัญหาฝุ่นละอองในกรุงเทพฯและปริมณฑลมีสาเหตุแตกต่างจากเชียงใหม่ มีแนวทางแก้ไขปัญหาส่วนนี้อย่างไร เศรษฐา ย้ำว่า ภาคกลางเองก็มีการเผาซากพืชผลเช่นเดียวกัน จึงต้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแล ซึ่งในส่วนนี้ก็มีกองทัพเข้ามาช่วยเหลือเฝ้าระวังในหลายพื้นที่ แต่อย่างไรก็ตามขอเน้นย้ำว่าปัญหานี้เกิดขึ้นจากทุกภาคส่วน ทุกคนต้องช่วยกันรับผิดชอบให้ปัญหาเหล่านี้ลดน้อยลง

ส่วนได้ประสานถึงแนวทางการแก้ไขปัญหากับประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะประเทศเมียนมาและลาวก็มีการเผาซากพืชผลทางการเกษตรทุกปี ในส่วนของประเทศลาวก็มีการพูดคุยอย่างดีมาตลอด แต่ก็ไม่ใช่เขาเพียงฝ่ายเดียว เพราะเอกชนฝ่ายไทยก็มีการลงทุนปลูกพืชผลทางการเกษตรในลาว ในประเทศเพื่อนำกลับมาขายในประเทศไทย จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการเผาซากพืชผลทางการเกษตร จึงได้พูดคุยกับเอกชนว่าการทำเช่นนี้จะต้องถูกเก็บภาษี ซึ่งปัจจุบันสามารถตรวจสอบได้ว่าเพาะปลูกที่ใด และเงินจำนวนนี้จะถูกนำมาใช้เพื่อ บำบัดหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการเผา ซึ่งการพูดคุยค่อนข้างรุนแรงเหมือนกัน ผู้ประกอบการเองก็ขานรับเพราะถือเป็นปัญหาใหญ่ เพราะผู้ประกอบการเอง นักธุรกิจ รวมถึงลูกหลานของเขาก็ได้รับผลกระทบจากปัญหา PM 2.5 เช่นเดียวกัน ขณะที่ประเทศเมียนมาฝ่ายทหารของไทยได้เข้าไปพูดคุยเจรจาเนื่องจากพื้นที่ที่มีการเผาป่าเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาภายในของประเทศ