ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกพรรคภูมิใจไทยได้ออกมาให้ร้ายพรรคประชาธิปัตย์ว่า หลักการพื้นฐานในการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง การตั้งเป้าหมายเพื่อให้ชนะการเลือกตั้งเพื่อจะได้เข้ามาทำงานให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศคือสิ่งสำคัญ
การเมืองที่ล้าหลังและเลวร้ายที่สุดคือการเล่นการเมืองแบบใส่ร้ายป้ายสี กล่าวหาบุคคลอื่นเพื่อตีกินในทางการเมือง พูดจาด้อยค่าพรรคการเมืองอื่น การมีวิวาทะกันในทางการเมืองเป็นเรื่องปกติก็ชี้แจงกันเป็นเรื่องๆเป็นกรณีไป ใครพาดพิงใครก็ว่ากันไปในตัวบุคคล แต่จะไปพาดพิงด้อยค่าพรรคการเมืองอื่นไม่ใช่วิสัยของนักการเมืองที่พึงกระทำ
แต่ละพรรคใครจะประกาศคว้าชัยในพื้นที่กี่ที่นั่ง ได้ ส.ส.กี่คนสามารถทำได้พูดได้หมด ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยก็มีสิทธิประกาศยุทธศาสตร์ได้ แต่ท้ายที่สุด ประชาชนจะเป็นผู้ให้คำตอบ ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์เรามีความมั่นใจในพื้นที่ภาคใต้ จากการทำงานให้กับประชาชน มีผลงานที่ปรากฏชัด และมีความยั่งยืน ผู้สมัครทุกเขตอยู่ชิดติดพื้นที่ ประชาชนสัมผัสได้ เชื่อมั่นว่าจะมีจำนวน ส.ส.เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน
ในส่วนที่สมาชิกพรรคภูมิใจไทยได้กล่าวพาดพิงจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ในเรื่องพื้นที่เขตเลือกตั้งจังหวัดพังงาว่าไม่มีความรับผิดชอบนั้น เอาเป็นว่าเป็นเรื่องภายในพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีวิธีการในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองจุรินทร์ เป็นหัวหน้าพรรคเป็นนักการเมืองมาอย่างยาวนาน มีความรับผิดชอบไม่ต้องมากังวลแทนพรรค
และเชื่อมั่นประชาชนจังหวัดพังงาจะวางใจสนับสนุนผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ แต่ในส่วนพรรคไหนจะส่งใครลงเขตไหนจังหวัดใดบ้าง ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์มีหลักการชัดคือจะไม่ไปก้าวก่ายใคร คือจะไม่ไปยุ่งเรื่องของพรรคอื่น ก็ต้องไปเปิดพจนานุกรมดูว่าไม่เข้าไปยุ่งเรื่องของคนอื่นความหมายของคำว่าอะไร พรรคไหนจะอ้างว่าตนเป็นราชสีห์ เป็นสัตว์ประเภทใดก็ว่ากันไป แต่ที่น่าแปลกใจคือความจริงแล้วราชสีห์ไม่น่าจะเห่าเป็นเท่านั้นเอง
ดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวพาดพิงถึงพรรคประชาธิปัตย์ และ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ถึงประเด็นการเตรียมการเลือกตั้งที่ภาคใต้ ว่าพรรคภูมิใจไทยจะเป็นพรรคแลนด์สไลด์ ส.ส.กลุ่มจังหวัด 6 จังหวัด คือ จ.กระบี่ พังงา ระนอง สตูล ตรัง และภูเก็ต นั้น
ดรุณวรรณ ระบุว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่พรรคการเมืองหลายพรรค เสนอตัวเป็นทางเลือกให้กับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะภาคใต้ การที่สฤษฏ์พงษ์ อ้างว่าพรรคภูมิใจไทยจะเป็นพรรคแลนด์สไลด์ด้วยผลงานตนจึงรู้สึกว่าดีเป็นวิถีของมืออาชีพ ที่พรรคการเมืองควรแข่งขันกันที่นโยบายที่จะตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน รวมถึงสร้างผลงานที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้ มากกว่าการใช้โวหารเพื่อสร้างคะแนน
แต่การที่สฤษฏ์พงษ์ การกล่าวถึงพรรคประชาธิปัตย์ว่าไม่มีผลงาน จึงเหมือนการเล่านิทานหลอกเด็ก เพราะสฤษฏ์พงษ์ รู้อยู่เต็มอก เห็นอยู่เต็มตา ได้ยินอยู่เต็มสองหู ว่าพรรคประชาธิปัตย์มีผลงานที่ทำเพื่อพี่น้องประชาชนรวมถึงคนภาคใต้มาโดยตลอด โดยเฉพาะนโยบายประกันรายได้ ที่วันนี้ได้ประโยชน์กันถ้วนหน้า แต่เลือกที่จะกล่าวหาบิดเบือน เพียงเพื่อสร้างคะแนนนิยมให้พรรคตัวเอง จึงเป็นเรื่องที่น่าตำหนิ และเป็นนิสัยของคนขี้แพ้ที่กลัวตั้งแต่ยังไม่ลงแข่ง
ทั้งนี้ นายจุรินทร์ ย้ำเสมอว่าให้ทำงาน ให้สร้างผลงาน การที่สฤษฏ์พงษ์ ออกมากล่าวพาดพิง จุรินทร์ เรื่องการบริหารจัดการของพรรคจึงเป็นเรื่องไม่เหมาะสม ผิดมารยาททางการเมือง ถือเป็นเรื่องภายในของพรรค จึงอยากให้อนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่เป็นผู้ใหญ่ของพรรคได้สั่งสอนมารยาททางการเมืองให้กับลูกพรรคบ้าง
“พรรคยังมั่นใจว่า พรรคยังเป็นความหวัง ให้กับพี่น้องชาวใต้ และมีความมั่นคงในอุดมการณ์มาตลอดระยะเวลากว่า 70 ปี ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน สฤษฏ์พงษ์ ไม่ต้องเป็นห่วงพรรคประชาธิปัตย์และนายจุรินทร์ เพราะจุรินทร์ เติบโตมากับพรรค ซึมซับอุดมการณ์ที่มั่นคง ไม่ได้ย้ายพรรคไปเรื่อย ๆ แบบคนไม่มีอุดมการณ์ ที่หวังแต่จะคว้าชัยชนะ ส่วนพรรคภูมิใจไทยจะแลนด์สไลด์หรือไม่ ท้ายที่สุดแล้วประชาชนจะเป็นคนตัดสิน และหากมั่นใจในคะแนนนิยมจริง หวังว่าการลงพื้นที่ของพรรคภูมิใจไทยจะได้รับการต้อนรับจากพี่น้องประชาชนอย่างเนืองแน่น และไม่มีการเกณฑ์ อสม.มารอต้อนรับ ” นางดรุณวรรณ กล่าว