พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร รับยื่นหนังสือจากกลุ่มตัวแทนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และสมาคมพัฒนารถร่วมเอกชน เพื่อขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) หลังช่วงปลายปีที่ผ่านมาได้ออกประกาศให้ผู้ประกอบการรถโดยสารที่ต้องการจะเดินรถในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียง 77 เส้นทาง ยื่นคำขอใบอนุญาตประกอบการขนส่ง แต่ผลปรากฏว่าผู้ที่ได้รับอนุญาตให้วิ่งกลับเป็นกลุ่มนายทุนใหม่ โดยผู้ที่วิ่งรถมานานกว่า 40 ปีในเส้นทางดังกล่าว ไม่ได้รับอนุญาตให้วิ่งรถเลย
บุญมา ป๋งมา ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ขสมก. และ วิทยา เปรมจิตร์ รักษาการสมาคมพัฒนารถร่วมเอกชน กล่าวว่า ประชาชนโดยเฉพาะในเขตชานเมืองได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากรถเอกชนที่ได้รับอนุญาตให้วิ่งรถ คิดค่าโดยสาร 25 บาทซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมที่เก็บเพียง 8 บาทเท่านั้น ดังนั้น จึงยิ่งทำให้ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงรถโดยสารสาธารณะที่มีราคาถูกได้ เป็นความเหลื่อมล้ำในสังคมที่เกิดขึ้น
ขณะเดียวกันการยื่นคำขอตามระเบียบของกรมการขนส่งทางบก ผู้ที่ได้รับอนุญาตกลายเป็นกลุ่มนายทุนที่ได้ไป 75 เส้นทางส่วนอีกสองเส้นทางเป็นบริษัทเอกชนที่คาดว่าเป็นบริษัทคู่เทียบเท่านั้น จึงทำให้สมาชิกของสมาคมพัฒนารถร่วมเอกชนที่เป็นผู้ประกอบการรายเก่ามีประสบการณ์เดินรถมายาวนาน มีพนักงานมากกว่า 1,000 คน ได้รับความเดือดร้อน เพราะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินรถแม้แต่เส้นทางเดียว การยื่นหนังสือในครั้งนี้ต้องการให้คณะกรรมาธิการฯ ตรวจสอบว่ามีการผูกขาดการเดินรถระหว่างกรมการขนส่งทางบกกับนายทุนเอกชนรายใดหรือไม่
ด้าน พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า จะรีบนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการโดยเร่งด่วน เนื่องจากเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนโดยตรง และมองว่าการพัฒนาประเทศควรจะเดินหน้าไปพร้อมกันทุกส่วน ไม่ควรมีประชาชนกลุ่มใดถูกเอาเปรียบหรือได้รับความเดือดร้อนจากการเข้าไม่ถึงบริการสาธารณะ